ชื่อเรื่อง :

ชื่อไฟล์ : แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับจ้างเหมาจัดเตรียมสถานที่โครงการแข่งขันฟุตซอล file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับจ้างเหมาจัดเตรียมสถานที่โครงการแข่งขันฟุตซอล../add_file/แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับจ้างเหมาจัดเตรียมสถานที่โครงการแข่งขันฟุตซอล
ชื่อไฟล์ : ตัวอย่างเอกสาร online file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ตัวอย่างเอกสาร online../add_file/ตัวอย่างเอกสาร online
ชื่อไฟล์ : ตัวอย่างเอกสาร online file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ตัวอย่างเอกสาร online../add_file/ตัวอย่างเอกสาร online
ชื่อไฟล์ : ข้อมูลระบบ file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ข้อมูลระบบ../add_file/ข้อมูลระบบ
ชื่อไฟล์ : บทความใหม่ file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: บทความใหม่../add_file/บทความใหม่
ชื่อไฟล์ : ตัวอย่างเอกสาร online file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ตัวอย่างเอกสาร online../add_file/ตัวอย่างเอกสาร online
ชื่อไฟล์ : {$Duration:1200,$Opacity:2} file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: {$Duration:1200,$Opacity:2}../add_file/{$Duration:1200,$Opacity:2}
ชื่อไฟล์ : FM5StIFSun31114.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : วิสัยทัศน์การพัฒนา องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง “ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง” file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: วิสัยทัศน์การพัฒนา องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง “ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง” ../add_file/วิสัยทัศน์การพัฒนา องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง “ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”
ชื่อไฟล์ : เข้ามาเยี่ยมชมครับ file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: เข้ามาเยี่ยมชมครับ../add_file/เข้ามาเยี่ยมชมครับ
ชื่อไฟล์ :

รอปรับปรุง ใหม่

file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์:

รอปรับปรุง ใหม่

../add_file/

รอปรับปรุง ใหม่


ชื่อไฟล์ :

รอปรับปรุง

file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์:

รอปรับปรุง

../add_file/

รอปรับปรุง


ชื่อไฟล์ : w3-animate-opacity file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: w3-animate-opacity../add_file/w3-animate-opacity
ชื่อไฟล์ :

รอปรับปรุง

file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์:

รอปรับปรุง

../add_file/

รอปรับปรุง


ชื่อไฟล์ :
องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :

 

 

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:

 

../add_file/

 


ชื่อไฟล์ :

สถานที่ท่องเที่ยว2234dsfasf

file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์:

สถานที่ท่องเที่ยว2234dsfasf

../add_file/

สถานที่ท่องเที่ยว2234dsfasf


ชื่อไฟล์ : ทดสอบ file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ทดสอบ../add_file/ทดสอบ
ชื่อไฟล์ :

1 ภารกิจ อำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

1.1 การวิเคราะห์ศักยภาพในการพัฒนาตามหลัก SWOT ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง   แบบองค์รวม มีดังนี้

 จุดแข็ง (Strength=s) 

  1. ประชาชนมีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่น ทั้งในโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิต
  2. ชุมชนเข้มแข็งได้รับการบริการสาธารณะด้านโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนสมบูรณ์
  3. มีโรงเรียนประถมศึกษา ๕ แห่ง โรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาส (ม.๓) ๒ แห่ง สามารถรองรับการเรียนของนักเรียนได้อย่างเพียงพอ
  4. องค์การบริหารส่วนตำบลที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับการบริการสาธารณะ
  5. มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลกับส่วนราชการอื่นในพื้นที่
  6. มีพื้นที่ป่าไม้ทำให้สภาพแวดล้อมธรรมชาติดี
  7. มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อกองทุนหมู่บ้าน ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนในชุมชน

จุดอ่อน (Weak-W )

  1. เป็นชุมชนที่มีการปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน
  2. ประชาชนมีรายได้น้อย ฐานะยากจน และขาดที่ทำกิน
  3. ประชาชนไม่มีงานทำนอกฤดูทำนา
  4. เด็กและเยาวชนบางส่วนไม่สามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
  5. ประชาชนออกไปหางานทำนอกพื้นที่
  6. มีการบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์
  7. กลุ่มอาชีพยังไม่เข้มแข็ง
  8. ประชาชนยังขาดความเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเอง
  9. ศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นขาดการสืบสาน

โอกาส (Opportunity – O)

  1. องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถสนับสนุนงบประมาณให้องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงที่มีแผนงานโครงการตามแนวทางยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เช่น  ถนน ขุดลอกคลอง
  2. มีพื้นที่เหมาะสมในการทำการเกษตร ไร่อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และปลูกข้าว
  3. ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงมีพื้นที่ป่าไม้พอที่จะรองรับเป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

อุปสรรค (Threat – T)

  1. ประชาชนขาดแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  2. ประชาชนยังขาดความรู้ในการพัฒนา ผลผลิตทางการเกษตร
  3. ประชาชนยังขาดความรู้ในการร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งกลุ่มต่างๆ
  4. ประชาชนยังขาดจิตสำนึกที่ดี ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
  5. งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลยังมีไม่เพียงพอในการบริหารจัดการให้ครบทุกด้าน

 

1.2 การวิเคราะห์ศักยภาพการพัฒนาท้องถิ่น ตามหลัก SWOT ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง พบว่า

         
ปัจจัยภายในประกอบด้วย

จุดแข็ง (Strength=s) 

  1. ด้านการบริหาร ได้แก่ การแบ่งส่วนราชการ การวางแผน การประสานงาน การมอบอำนาจ
  2. การกำกับดูแล
  3. ระเบียบ กฎหมาย
  4. บุคลากร ได้แก่ อัตรากำลัง คุณภาพ วินัย ทัศนคติ พฤติกรรม
  5. งบประมาณ
  6. ระบบข้อมูล
  7. การประสานงาน/การอำนวยการ/ความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ
  8. ทรัพยากร เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำงาน

ปัจจัยภายนอกประกอบด้วย

  1. ด้านการเมือง ความขัดแย้ง กลุ่มผลประโยชน์
  2. ด้านเศรษฐกิจ
  3. ด้านสังคม
  4. นโยบายรัฐบาล
  5. ทคโนโลยี


จุดแข็งของการพัฒนาในปัจจุบัน

  1. มีสายการบังคับบัญชาที่สั้นและรวดเร็ว
  2. มีงบประมาณเป็นของตนเอง
  3. มีบุคลากรและพื้นที่รับผิดชอบชัดเจน
  4. มีเครื่องมือและเทคโนโลยีเพียงพอ
  5. มีระบบข้อมูลเพียงพอ
  6. มีการแบ่งส่วนราชการที่เหมาะสม
  7. มีการกำกับดูแลอย่างทั่วถึง

จุดแข็งอ่อนของการพัฒนา

  1. มีอัตรากำลังที่น้อยและมีความรู้ไม่เพียงพอ
  2. ระเบียบกฎหมายยังไม่ชัดเจน
  3. ขาดบุคลากรที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการปฏิบัติงาน


          ผลการวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชน

          จุดแข็ง (Streng=s) 

  1. ประชาชนมีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่นทั้งในด้านโครงสร้างและคุณภาพชีวิต
  2. ชุมชนเข้มแข็งได้รับการบริการสาธารณะด้านโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนสมบูรณ์
  3. มีโรงเรียนประถมศึกษา ๕ แห่ง โรงเรียนขยายโอกาส ๒ แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน ๔ แห่ง สามารถรองรับการเรียนของเด็กนักเรียนได้อย่างเพียงพอ
  4. องค์การบริหารส่วนตำบลมีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับการบริการสาธารณะและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
  5. มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลกับส่วนราชการอื่นในพื้นที่
  6. มีป่าไม้มาก ทำให้สภาพแวดล้อมและธรรมชาติดี
  7. มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อกองทุนหมู่บ้าน ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนในชุมชน

          จุดอ่อน (Weakness=W) 

  1. เป็นชุมชนที่มีการปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน
  2. ประชาชนมีรายได้น้อย ฐานะยากจน และขาดที่ทำกิน
  3. ประชาชนไม่มีงานทำนอกฤดูทำนา
  4. เด็กและเยาวชน บางส่วนไม่สามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
  5. ประชาชนออกไปหางานทำนอกพื้นที่
  6. มีการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์
  7. กลุ่มอาชีพยังไม่เข้มแข็ง
  8. ประชาชนยังขาดความเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเอง

อุปสรรคหรือข้อจำกัด (Threat=T) 

  1. ประชาชนขาดแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  2. ประชาชนยังขาดความรู้ในการพัฒนา ผลผลิตทางการเกษตร
  3. ประชาชนยังขาดความรู้ในการร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งกลุ่มต่างๆ
  4. ประชาชนยังขาดจิตสำนึกที่ดีในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
  5. งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลยังมีไม่เพียงพอในการบริหารจัดการให้ครบทุกด้าน

          โอกาส (Opportunity=O) 

  1. องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถสนับสนุนงบประมาณให้องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงที่มีแผนงานโครงการตามแนวทาง ยุทธศาสตร์การพัฒาจังหวัด เช่น ถนน ขุดลอกคลอง
  2. มีพื้นที่เหมาะสมในการทำการเกษตร ไร่อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และปลูกข้าว
  3. ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงมีพื้นที่ป่าไม้พอที่จะรองรับเป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2. ภารกิจหลัก และภารกิจรอง ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะดำเนินการ
                    การพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงนั้น เป็นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการร่วมคิดร่วมแก้ไขปัญหาร่วมจัดทำส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน ในเขตพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นในทุกด้าน การพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงจะสมบูรณ์ได้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของชุมชนในพื้นที่ เกิดความตระหนักร่วมกันแก้ไขปัญหาและความเข้าใจในแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ยังได้เน้นให้คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาในทุกกลุ่มทุกวัยของประชากร นอกจากนั้นยังได้เน้นการส่งเสริม และสนับสนุนให้การศึกษาเด็กก่อนวัยเรียน และพัฒนาเยาวชนให้พร้อมที่จะเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ โดยยึดกรอบแนวทางในการจัดระเบียบการศึกษา ส่วนด้านพัฒนาอาชีพนั้น จะเน้นพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเองในท้องถิ่น และยังจัดให้ตั้งเศรษฐกิจแบบพอเพียงโดยส่วนรวม
                    การวิเคราะห์ภารกิจ  อำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ และรวบรวมกฎหมายอื่นขององค์การบริหารส่วนตำบล ใช้เทคนิค SWOT เข้ามาช่วย ทั้งนี้เพื่อให้ทราบว่าองค์การบริหารส่วนตำบล มีอำนาจหน้าที่ที่จะเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาในเขตพื้นที่ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนได้อย่างไร โดยวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส  ภัยคุกคามในการดำเนินการตามภารกิจ
๑. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีภารกิจที่เกี่ยวข้องดังนี้
                   ๑. ก่อสร้างและปรับปรุงเส้นทางการคมนาคม สิ่งอำนวยความสะดวก กิจการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่างๆ ให้ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่อยู่ในเขตขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เป็นภารกิจหลักตามมาตรา มาตรา ๖๗ (๑) จัดให้มีและบำรุงรักษาทางน้ำและทางบก
๒. ให้มีน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและการเกษตร (มาตรา ๖๘ (๑) )
๓. ให้มีและบำรุงการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น (มาตรา ๖๘ (๒) )
๔. ให้มีและบำรุงรักษาทางระบายน้ำ (มาตรา ๖๘ (๓) )
๕. การสาธารณูปโภคและการก่อสร้างอื่นๆ (มาตรา ๑๖ (๔) )
๖. การสาธารณูปการ (มาตรา ๑๖ (๕) )
๒. ด้านส่งเสริมคุณภาพชีวิต มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 
๑. ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ( มาตรา ๖๗ (๖) )
๒. ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ (มาตรา ๖๗ (๓) )
๓. ให้มีและบำรุงสถานที่ประชุม การกีฬาการพักผ่อนหย่อนใจและสวนสาธารณะ (มาตรา ๖๘ (๔)) 
๔. การสังคมสงเคราะห์และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส (มาตรา ๑๖(๑๐))
๕. การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย (มาตรา ๑๖ (๒) )
๖. การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาคและสิทธิเสรีภาพของประชาชน (มาตรา๑๖(๕))
          ๗. การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัวและการรักษาพยาบาล (มาตรา ๑๖ (๑๙))
๓. ด้านการจัดระเบียบชุมชน สังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (มาตรา ๖๗(๔))
๒. การคุ้มครองดูแล และรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน (มาตรา ๖๘(๘))
๓. การผังเมือง (มาตรา ๖๘ (๑๓))
๔. จัดให้มีที่จอดรถ (มาตรา ๑๖ (๓))
๕. การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (มาตรา ๑๖ (๑๗))
๖. การควบคุมอาคาร (มาตรา ๑๖ (๒๘))
๗. การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน (มาตรา ๑๖ (๓๐))
๔. ด้านการวางแผน การส่งเสริมการลงทุน พาณิชยกรรมและการท่องเที่ยว มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. ส่งเสริมให้มีอุตสาหกรรมในครอบครัว (มาตรา ๖๘ (๖) )
๒. ให้มีและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรและกิจการสหกรณ์ (มาตรา ๖๘ (๕) )
๓. บำรุงและส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎร ( มาตรา ๖๘(๗) )
๔. ให้มีตลาด (มาตรา ๖๘ (๑๐) )
๕. การส่งเสริม การฝึกอบรม และการประกอบอาชีพ (มาตรา ๑๖ (๑๖) )
๖. การส่งเสริมการท่องเที่ยว ( มาตรา ๖๘ (๑๒) )
๗. กิจการเกี่ยวกับการพาณิชย์ ( มาตรา ๖๘ (๑๑) )
๘. การพาณิชยกรรมและการส่งเสริมการลงทุน (มาตรา ๑๖ (๗) )
๕. ด้านการบริหารจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. คุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (มาตรา ๖๗ (๗))
๒. การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (มาตรา ๑๖ (๒๔))
๓. รักษาความสะอาดของถนน ทางน้ำ ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมทั้งกำจัดมูลฝอยและ      สิ่งปฏิกูล (มาตรา ๖๗ (๒))
๔. การจัดการสิ่งแวดล้อมและมลพิษต่างๆ (มาตรา ๑๗ (๑๒) )
๖. ด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น (มาตรา ๖๗ (๘))
๒. ส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (มาตรา ๖๗ (๕))
๓. การจัดการศึกษา (มาตรา ๑๖ (๙))
๔. การส่งเสริมการกีฬา จารีตประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น (มาตรา ๑๗(๑๘)
๗. ด้านการบริหารจัดการและการสนับสนุน การปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีภารกิจที่ เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. สนับสนุนสภาตำบลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในการพัฒนาท้องถิ่น (มาตรา๔๕ (๓))
๒. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ทางราชการมอบหมายโดยจัดสรรงบประมาณหรือบุคลากรตามความ จำเป็นและสมควร (มาตรา ๖๗ (๙))
๓. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการมีมาตรการป้องกัน (มาตรา ๑๖ (๑๖))
๔. การประสานและให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มาตรา ๑๗ (๓))
๕. การสร้างและบำรุงรักษาทางบกและทางน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น (มาตรา ๑๗ (๑๖))
          ภารกิจทั้ง ๗ ด้านตามที่กฎหมายกำหนดให้อำนาจองค์การบริหารส่วนตำบล สามารถจะแก้ไขปัญหาขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชน ในเขตพื้นที่ประกอบด้วยการดำเนินการ ขององค์การบริหารส่วนตำบล จะต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนาอำเภอ แผนพัฒนาตำบล นโยบายของรัฐบาล และนโยบายของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นสำคัญ
ภารกิจหลัก
๑. ด้านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
๒. ด้านการสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา คนพิการและผู้ด้อยโอกาส
๓. ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๔. ด้านการพัฒนาการเมืองการบริหาร
๕. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
๖. ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
๗. ด้านการปรับปรุงและพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา เป็นต้น
๘. ด้านการรักษาความสะอาด การกำจัดขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล
๙. การป้องกันและระงับโรคติดต่อ
๑๐. การพัฒนาและปรับปรุงการเมืองและการบริหาร
๑๑. การส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มอาชีพและการเพิ่มรายได้แก่ราษฎร
๑๒. การฟื้นฟูและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น
๑๓. การส่งเสริมและเสริมสร้างให้ราษฎรมีสุขภาพแข็งแรง
๑๔. การส่งเสริมการเกษตรและการประกอบอาชีพทางการเกษตร
๑๕. การจัดทำแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบล
๑๖. การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ภารกิจรอง
๑. ด้านการจัดระเบียบชุมชน สังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย
๒. การคุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๓. การสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมในครัวเรือน
๔. การคุ้มครองดูแล และรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
๕. การฟื้นฟูวัฒนธรรมและส่งเสริมประเพณีในท้องถิ่น
๖. การสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพกลุ่มอาชีพ
๗. การส่งเสริมการเกษตรและการประกอบอาชีพทางการเกษตร
๘. ด้านการวางแผน การส่งเสริมการลงทุนประกอบการค้า
๙. การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
๑๐. การสาธารณสุข การอนามัยครัวเรือน และการรักษาพยาบาล
๑๑. การจัดการ การบำรุง และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๑๒. การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของราษฎร

1 ภารกิจ อำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

1.1 การวิเคราะห์ศักยภาพในการพัฒนาตามหลัก SWOT ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง   แบบองค์รวม มีดังนี้

 จุดแข็ง (Strength=s) 

  1. ประชาชนมีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่น ทั้งในโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิต
  2. ชุมชนเข้มแข็งได้รับการบริการสาธารณะด้านโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนสมบูรณ์
  3. มีโรงเรียนประถมศึกษา ๕ แห่ง โรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาส (ม.๓) ๒ แห่ง สามารถรองรับการเรียนของนักเรียนได้อย่างเพียงพอ
  4. องค์การบริหารส่วนตำบลที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับการบริการสาธารณะ
  5. มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลกับส่วนราชการอื่นในพื้นที่
  6. มีพื้นที่ป่าไม้ทำให้สภาพแวดล้อมธรรมชาติดี
  7. มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อกองทุนหมู่บ้าน ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนในชุมชน

จุดอ่อน (Weak-W )

  1. เป็นชุมชนที่มีการปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน
  2. ประชาชนมีรายได้น้อย ฐานะยากจน และขาดที่ทำกิน
  3. ประชาชนไม่มีงานทำนอกฤดูทำนา
  4. เด็กและเยาวชนบางส่วนไม่สามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
  5. ประชาชนออกไปหางานทำนอกพื้นที่
  6. มีการบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์
  7. กลุ่มอาชีพยังไม่เข้มแข็ง
  8. ประชาชนยังขาดความเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเอง
  9. ศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นขาดการสืบสาน

โอกาส (Opportunity – O)

  1. องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถสนับสนุนงบประมาณให้องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงที่มีแผนงานโครงการตามแนวทางยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เช่น  ถนน ขุดลอกคลอง
  2. มีพื้นที่เหมาะสมในการทำการเกษตร ไร่อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และปลูกข้าว
  3. ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงมีพื้นที่ป่าไม้พอที่จะรองรับเป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

อุปสรรค (Threat – T)

  1. ประชาชนขาดแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  2. ประชาชนยังขาดความรู้ในการพัฒนา ผลผลิตทางการเกษตร
  3. ประชาชนยังขาดความรู้ในการร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งกลุ่มต่างๆ
  4. ประชาชนยังขาดจิตสำนึกที่ดี ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
  5. งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลยังมีไม่เพียงพอในการบริหารจัดการให้ครบทุกด้าน

 

1.2 การวิเคราะห์ศักยภาพการพัฒนาท้องถิ่น ตามหลัก SWOT ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง พบว่า

         
ปัจจัยภายในประกอบด้วย

จุดแข็ง (Strength=s) 

  1. ด้านการบริหาร ได้แก่ การแบ่งส่วนราชการ การวางแผน การประสานงาน การมอบอำนาจ
  2. การกำกับดูแล
  3. ระเบียบ กฎหมาย
  4. บุคลากร ได้แก่ อัตรากำลัง คุณภาพ วินัย ทัศนคติ พฤติกรรม
  5. งบประมาณ
  6. ระบบข้อมูล
  7. การประสานงาน/การอำนวยการ/ความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ
  8. ทรัพยากร เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำงาน

ปัจจัยภายนอกประกอบด้วย

  1. ด้านการเมือง ความขัดแย้ง กลุ่มผลประโยชน์
  2. ด้านเศรษฐกิจ
  3. ด้านสังคม
  4. นโยบายรัฐบาล
  5. ทคโนโลยี


จุดแข็งของการพัฒนาในปัจจุบัน

  1. มีสายการบังคับบัญชาที่สั้นและรวดเร็ว
  2. มีงบประมาณเป็นของตนเอง
  3. มีบุคลากรและพื้นที่รับผิดชอบชัดเจน
  4. มีเครื่องมือและเทคโนโลยีเพียงพอ
  5. มีระบบข้อมูลเพียงพอ
  6. มีการแบ่งส่วนราชการที่เหมาะสม
  7. มีการกำกับดูแลอย่างทั่วถึง

จุดแข็งอ่อนของการพัฒนา

  1. มีอัตรากำลังที่น้อยและมีความรู้ไม่เพียงพอ
  2. ระเบียบกฎหมายยังไม่ชัดเจน
  3. ขาดบุคลากรที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการปฏิบัติงาน


          ผลการวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชน

          จุดแข็ง (Streng=s) 

  1. ประชาชนมีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่นทั้งในด้านโครงสร้างและคุณภาพชีวิต
  2. ชุมชนเข้มแข็งได้รับการบริการสาธารณะด้านโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนสมบูรณ์
  3. มีโรงเรียนประถมศึกษา ๕ แห่ง โรงเรียนขยายโอกาส ๒ แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน ๔ แห่ง สามารถรองรับการเรียนของเด็กนักเรียนได้อย่างเพียงพอ
  4. องค์การบริหารส่วนตำบลมีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับการบริการสาธารณะและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
  5. มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลกับส่วนราชการอื่นในพื้นที่
  6. มีป่าไม้มาก ทำให้สภาพแวดล้อมและธรรมชาติดี
  7. มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อกองทุนหมู่บ้าน ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนในชุมชน

          จุดอ่อน (Weakness=W) 

  1. เป็นชุมชนที่มีการปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน
  2. ประชาชนมีรายได้น้อย ฐานะยากจน และขาดที่ทำกิน
  3. ประชาชนไม่มีงานทำนอกฤดูทำนา
  4. เด็กและเยาวชน บางส่วนไม่สามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
  5. ประชาชนออกไปหางานทำนอกพื้นที่
  6. มีการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์
  7. กลุ่มอาชีพยังไม่เข้มแข็ง
  8. ประชาชนยังขาดความเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเอง

อุปสรรคหรือข้อจำกัด (Threat=T) 

  1. ประชาชนขาดแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  2. ประชาชนยังขาดความรู้ในการพัฒนา ผลผลิตทางการเกษตร
  3. ประชาชนยังขาดความรู้ในการร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งกลุ่มต่างๆ
  4. ประชาชนยังขาดจิตสำนึกที่ดีในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
  5. งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลยังมีไม่เพียงพอในการบริหารจัดการให้ครบทุกด้าน

          โอกาส (Opportunity=O) 

  1. องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถสนับสนุนงบประมาณให้องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงที่มีแผนงานโครงการตามแนวทาง ยุทธศาสตร์การพัฒาจังหวัด เช่น ถนน ขุดลอกคลอง
  2. มีพื้นที่เหมาะสมในการทำการเกษตร ไร่อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และปลูกข้าว
  3. ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงมีพื้นที่ป่าไม้พอที่จะรองรับเป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2. ภารกิจหลัก และภารกิจรอง ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะดำเนินการ
                    การพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงนั้น เป็นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการร่วมคิดร่วมแก้ไขปัญหาร่วมจัดทำส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน ในเขตพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นในทุกด้าน การพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงจะสมบูรณ์ได้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของชุมชนในพื้นที่ เกิดความตระหนักร่วมกันแก้ไขปัญหาและความเข้าใจในแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ยังได้เน้นให้คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาในทุกกลุ่มทุกวัยของประชากร นอกจากนั้นยังได้เน้นการส่งเสริม และสนับสนุนให้การศึกษาเด็กก่อนวัยเรียน และพัฒนาเยาวชนให้พร้อมที่จะเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ โดยยึดกรอบแนวทางในการจัดระเบียบการศึกษา ส่วนด้านพัฒนาอาชีพนั้น จะเน้นพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเองในท้องถิ่น และยังจัดให้ตั้งเศรษฐกิจแบบพอเพียงโดยส่วนรวม
                    การวิเคราะห์ภารกิจ  อำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ และรวบรวมกฎหมายอื่นขององค์การบริหารส่วนตำบล ใช้เทคนิค SWOT เข้ามาช่วย ทั้งนี้เพื่อให้ทราบว่าองค์การบริหารส่วนตำบล มีอำนาจหน้าที่ที่จะเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาในเขตพื้นที่ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนได้อย่างไร โดยวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส  ภัยคุกคามในการดำเนินการตามภารกิจ
๑. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีภารกิจที่เกี่ยวข้องดังนี้
                   ๑. ก่อสร้างและปรับปรุงเส้นทางการคมนาคม สิ่งอำนวยความสะดวก กิจการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่างๆ ให้ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่อยู่ในเขตขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เป็นภารกิจหลักตามมาตรา มาตรา ๖๗ (๑) จัดให้มีและบำรุงรักษาทางน้ำและทางบก
๒. ให้มีน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและการเกษตร (มาตรา ๖๘ (๑) )
๓. ให้มีและบำรุงการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น (มาตรา ๖๘ (๒) )
๔. ให้มีและบำรุงรักษาทางระบายน้ำ (มาตรา ๖๘ (๓) )
๕. การสาธารณูปโภคและการก่อสร้างอื่นๆ (มาตรา ๑๖ (๔) )
๖. การสาธารณูปการ (มาตรา ๑๖ (๕) )
๒. ด้านส่งเสริมคุณภาพชีวิต มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 
๑. ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ( มาตรา ๖๗ (๖) )
๒. ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ (มาตรา ๖๗ (๓) )
๓. ให้มีและบำรุงสถานที่ประชุม การกีฬาการพักผ่อนหย่อนใจและสวนสาธารณะ (มาตรา ๖๘ (๔)) 
๔. การสังคมสงเคราะห์และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส (มาตรา ๑๖(๑๐))
๕. การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย (มาตรา ๑๖ (๒) )
๖. การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาคและสิทธิเสรีภาพของประชาชน (มาตรา๑๖(๕))
          ๗. การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัวและการรักษาพยาบาล (มาตรา ๑๖ (๑๙))
๓. ด้านการจัดระเบียบชุมชน สังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (มาตรา ๖๗(๔))
๒. การคุ้มครองดูแล และรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน (มาตรา ๖๘(๘))
๓. การผังเมือง (มาตรา ๖๘ (๑๓))
๔. จัดให้มีที่จอดรถ (มาตรา ๑๖ (๓))
๕. การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (มาตรา ๑๖ (๑๗))
๖. การควบคุมอาคาร (มาตรา ๑๖ (๒๘))
๗. การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน (มาตรา ๑๖ (๓๐))
๔. ด้านการวางแผน การส่งเสริมการลงทุน พาณิชยกรรมและการท่องเที่ยว มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. ส่งเสริมให้มีอุตสาหกรรมในครอบครัว (มาตรา ๖๘ (๖) )
๒. ให้มีและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรและกิจการสหกรณ์ (มาตรา ๖๘ (๕) )
๓. บำรุงและส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎร ( มาตรา ๖๘(๗) )
๔. ให้มีตลาด (มาตรา ๖๘ (๑๐) )
๕. การส่งเสริม การฝึกอบรม และการประกอบอาชีพ (มาตรา ๑๖ (๑๖) )
๖. การส่งเสริมการท่องเที่ยว ( มาตรา ๖๘ (๑๒) )
๗. กิจการเกี่ยวกับการพาณิชย์ ( มาตรา ๖๘ (๑๑) )
๘. การพาณิชยกรรมและการส่งเสริมการลงทุน (มาตรา ๑๖ (๗) )
๕. ด้านการบริหารจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. คุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (มาตรา ๖๗ (๗))
๒. การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (มาตรา ๑๖ (๒๔))
๓. รักษาความสะอาดของถนน ทางน้ำ ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมทั้งกำจัดมูลฝอยและ      สิ่งปฏิกูล (มาตรา ๖๗ (๒))
๔. การจัดการสิ่งแวดล้อมและมลพิษต่างๆ (มาตรา ๑๗ (๑๒) )
๖. ด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น (มาตรา ๖๗ (๘))
๒. ส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (มาตรา ๖๗ (๕))
๓. การจัดการศึกษา (มาตรา ๑๖ (๙))
๔. การส่งเสริมการกีฬา จารีตประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น (มาตรา ๑๗(๑๘)
๗. ด้านการบริหารจัดการและการสนับสนุน การปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีภารกิจที่ เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. สนับสนุนสภาตำบลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในการพัฒนาท้องถิ่น (มาตรา๔๕ (๓))
๒. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ทางราชการมอบหมายโดยจัดสรรงบประมาณหรือบุคลากรตามความ จำเป็นและสมควร (มาตรา ๖๗ (๙))
๓. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการมีมาตรการป้องกัน (มาตรา ๑๖ (๑๖))
๔. การประสานและให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มาตรา ๑๗ (๓))
๕. การสร้างและบำรุงรักษาทางบกและทางน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น (มาตรา ๑๗ (๑๖))
          ภารกิจทั้ง ๗ ด้านตามที่กฎหมายกำหนดให้อำนาจองค์การบริหารส่วนตำบล สามารถจะแก้ไขปัญหาขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชน ในเขตพื้นที่ประกอบด้วยการดำเนินการ ขององค์การบริหารส่วนตำบล จะต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนาอำเภอ แผนพัฒนาตำบล นโยบายของรัฐบาล และนโยบายของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นสำคัญ
ภารกิจหลัก
๑. ด้านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
๒. ด้านการสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา คนพิการและผู้ด้อยโอกาส
๓. ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๔. ด้านการพัฒนาการเมืองการบริหาร
๕. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
๖. ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
๗. ด้านการปรับปรุงและพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา เป็นต้น
๘. ด้านการรักษาความสะอาด การกำจัดขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล
๙. การป้องกันและระงับโรคติดต่อ
๑๐. การพัฒนาและปรับปรุงการเมืองและการบริหาร
๑๑. การส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มอาชีพและการเพิ่มรายได้แก่ราษฎร
๑๒. การฟื้นฟูและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น
๑๓. การส่งเสริมและเสริมสร้างให้ราษฎรมีสุขภาพแข็งแรง
๑๔. การส่งเสริมการเกษตรและการประกอบอาชีพทางการเกษตร
๑๕. การจัดทำแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบล
๑๖. การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ภารกิจรอง
๑. ด้านการจัดระเบียบชุมชน สังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย
๒. การคุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๓. การสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมในครัวเรือน
๔. การคุ้มครองดูแล และรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
๕. การฟื้นฟูวัฒนธรรมและส่งเสริมประเพณีในท้องถิ่น
๖. การสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพกลุ่มอาชีพ
๗. การส่งเสริมการเกษตรและการประกอบอาชีพทางการเกษตร
๘. ด้านการวางแผน การส่งเสริมการลงทุนประกอบการค้า
๙. การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
๑๐. การสาธารณสุข การอนามัยครัวเรือน และการรักษาพยาบาล
๑๑. การจัดการ การบำรุง และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๑๒. การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของราษฎร

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:

1 ภารกิจ อำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

1.1 การวิเคราะห์ศักยภาพในการพัฒนาตามหลัก SWOT ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง   แบบองค์รวม มีดังนี้

 จุดแข็ง (Strength=s) 

  1. ประชาชนมีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่น ทั้งในโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิต
  2. ชุมชนเข้มแข็งได้รับการบริการสาธารณะด้านโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนสมบูรณ์
  3. มีโรงเรียนประถมศึกษา ๕ แห่ง โรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาส (ม.๓) ๒ แห่ง สามารถรองรับการเรียนของนักเรียนได้อย่างเพียงพอ
  4. องค์การบริหารส่วนตำบลที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับการบริการสาธารณะ
  5. มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลกับส่วนราชการอื่นในพื้นที่
  6. มีพื้นที่ป่าไม้ทำให้สภาพแวดล้อมธรรมชาติดี
  7. มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อกองทุนหมู่บ้าน ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนในชุมชน

จุดอ่อน (Weak-W )

  1. เป็นชุมชนที่มีการปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน
  2. ประชาชนมีรายได้น้อย ฐานะยากจน และขาดที่ทำกิน
  3. ประชาชนไม่มีงานทำนอกฤดูทำนา
  4. เด็กและเยาวชนบางส่วนไม่สามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
  5. ประชาชนออกไปหางานทำนอกพื้นที่
  6. มีการบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์
  7. กลุ่มอาชีพยังไม่เข้มแข็ง
  8. ประชาชนยังขาดความเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเอง
  9. ศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นขาดการสืบสาน

โอกาส (Opportunity – O)

  1. องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถสนับสนุนงบประมาณให้องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงที่มีแผนงานโครงการตามแนวทางยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เช่น  ถนน ขุดลอกคลอง
  2. มีพื้นที่เหมาะสมในการทำการเกษตร ไร่อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และปลูกข้าว
  3. ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงมีพื้นที่ป่าไม้พอที่จะรองรับเป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

อุปสรรค (Threat – T)

  1. ประชาชนขาดแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  2. ประชาชนยังขาดความรู้ในการพัฒนา ผลผลิตทางการเกษตร
  3. ประชาชนยังขาดความรู้ในการร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งกลุ่มต่างๆ
  4. ประชาชนยังขาดจิตสำนึกที่ดี ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
  5. งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลยังมีไม่เพียงพอในการบริหารจัดการให้ครบทุกด้าน

 

1.2 การวิเคราะห์ศักยภาพการพัฒนาท้องถิ่น ตามหลัก SWOT ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง พบว่า

         
ปัจจัยภายในประกอบด้วย

จุดแข็ง (Strength=s) 

  1. ด้านการบริหาร ได้แก่ การแบ่งส่วนราชการ การวางแผน การประสานงาน การมอบอำนาจ
  2. การกำกับดูแล
  3. ระเบียบ กฎหมาย
  4. บุคลากร ได้แก่ อัตรากำลัง คุณภาพ วินัย ทัศนคติ พฤติกรรม
  5. งบประมาณ
  6. ระบบข้อมูล
  7. การประสานงาน/การอำนวยการ/ความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ
  8. ทรัพยากร เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำงาน

ปัจจัยภายนอกประกอบด้วย

  1. ด้านการเมือง ความขัดแย้ง กลุ่มผลประโยชน์
  2. ด้านเศรษฐกิจ
  3. ด้านสังคม
  4. นโยบายรัฐบาล
  5. ทคโนโลยี


จุดแข็งของการพัฒนาในปัจจุบัน

  1. มีสายการบังคับบัญชาที่สั้นและรวดเร็ว
  2. มีงบประมาณเป็นของตนเอง
  3. มีบุคลากรและพื้นที่รับผิดชอบชัดเจน
  4. มีเครื่องมือและเทคโนโลยีเพียงพอ
  5. มีระบบข้อมูลเพียงพอ
  6. มีการแบ่งส่วนราชการที่เหมาะสม
  7. มีการกำกับดูแลอย่างทั่วถึง

จุดแข็งอ่อนของการพัฒนา

  1. มีอัตรากำลังที่น้อยและมีความรู้ไม่เพียงพอ
  2. ระเบียบกฎหมายยังไม่ชัดเจน
  3. ขาดบุคลากรที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการปฏิบัติงาน


          ผลการวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชน

          จุดแข็ง (Streng=s) 

  1. ประชาชนมีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่นทั้งในด้านโครงสร้างและคุณภาพชีวิต
  2. ชุมชนเข้มแข็งได้รับการบริการสาธารณะด้านโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนสมบูรณ์
  3. มีโรงเรียนประถมศึกษา ๕ แห่ง โรงเรียนขยายโอกาส ๒ แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน ๔ แห่ง สามารถรองรับการเรียนของเด็กนักเรียนได้อย่างเพียงพอ
  4. องค์การบริหารส่วนตำบลมีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับการบริการสาธารณะและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
  5. มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลกับส่วนราชการอื่นในพื้นที่
  6. มีป่าไม้มาก ทำให้สภาพแวดล้อมและธรรมชาติดี
  7. มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อกองทุนหมู่บ้าน ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนในชุมชน

          จุดอ่อน (Weakness=W) 

  1. เป็นชุมชนที่มีการปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน
  2. ประชาชนมีรายได้น้อย ฐานะยากจน และขาดที่ทำกิน
  3. ประชาชนไม่มีงานทำนอกฤดูทำนา
  4. เด็กและเยาวชน บางส่วนไม่สามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
  5. ประชาชนออกไปหางานทำนอกพื้นที่
  6. มีการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์
  7. กลุ่มอาชีพยังไม่เข้มแข็ง
  8. ประชาชนยังขาดความเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเอง

อุปสรรคหรือข้อจำกัด (Threat=T) 

  1. ประชาชนขาดแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  2. ประชาชนยังขาดความรู้ในการพัฒนา ผลผลิตทางการเกษตร
  3. ประชาชนยังขาดความรู้ในการร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งกลุ่มต่างๆ
  4. ประชาชนยังขาดจิตสำนึกที่ดีในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
  5. งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลยังมีไม่เพียงพอในการบริหารจัดการให้ครบทุกด้าน

          โอกาส (Opportunity=O) 

  1. องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถสนับสนุนงบประมาณให้องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงที่มีแผนงานโครงการตามแนวทาง ยุทธศาสตร์การพัฒาจังหวัด เช่น ถนน ขุดลอกคลอง
  2. มีพื้นที่เหมาะสมในการทำการเกษตร ไร่อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และปลูกข้าว
  3. ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงมีพื้นที่ป่าไม้พอที่จะรองรับเป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2. ภารกิจหลัก และภารกิจรอง ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะดำเนินการ
                    การพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงนั้น เป็นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการร่วมคิดร่วมแก้ไขปัญหาร่วมจัดทำส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน ในเขตพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นในทุกด้าน การพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงจะสมบูรณ์ได้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของชุมชนในพื้นที่ เกิดความตระหนักร่วมกันแก้ไขปัญหาและความเข้าใจในแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ยังได้เน้นให้คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาในทุกกลุ่มทุกวัยของประชากร นอกจากนั้นยังได้เน้นการส่งเสริม และสนับสนุนให้การศึกษาเด็กก่อนวัยเรียน และพัฒนาเยาวชนให้พร้อมที่จะเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ โดยยึดกรอบแนวทางในการจัดระเบียบการศึกษา ส่วนด้านพัฒนาอาชีพนั้น จะเน้นพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเองในท้องถิ่น และยังจัดให้ตั้งเศรษฐกิจแบบพอเพียงโดยส่วนรวม
                    การวิเคราะห์ภารกิจ  อำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ และรวบรวมกฎหมายอื่นขององค์การบริหารส่วนตำบล ใช้เทคนิค SWOT เข้ามาช่วย ทั้งนี้เพื่อให้ทราบว่าองค์การบริหารส่วนตำบล มีอำนาจหน้าที่ที่จะเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาในเขตพื้นที่ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนได้อย่างไร โดยวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส  ภัยคุกคามในการดำเนินการตามภารกิจ
๑. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีภารกิจที่เกี่ยวข้องดังนี้
                   ๑. ก่อสร้างและปรับปรุงเส้นทางการคมนาคม สิ่งอำนวยความสะดวก กิจการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่างๆ ให้ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่อยู่ในเขตขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เป็นภารกิจหลักตามมาตรา มาตรา ๖๗ (๑) จัดให้มีและบำรุงรักษาทางน้ำและทางบก
๒. ให้มีน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและการเกษตร (มาตรา ๖๘ (๑) )
๓. ให้มีและบำรุงการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น (มาตรา ๖๘ (๒) )
๔. ให้มีและบำรุงรักษาทางระบายน้ำ (มาตรา ๖๘ (๓) )
๕. การสาธารณูปโภคและการก่อสร้างอื่นๆ (มาตรา ๑๖ (๔) )
๖. การสาธารณูปการ (มาตรา ๑๖ (๕) )
๒. ด้านส่งเสริมคุณภาพชีวิต มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 
๑. ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ( มาตรา ๖๗ (๖) )
๒. ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ (มาตรา ๖๗ (๓) )
๓. ให้มีและบำรุงสถานที่ประชุม การกีฬาการพักผ่อนหย่อนใจและสวนสาธารณะ (มาตรา ๖๘ (๔)) 
๔. การสังคมสงเคราะห์และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส (มาตรา ๑๖(๑๐))
๕. การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย (มาตรา ๑๖ (๒) )
๖. การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาคและสิทธิเสรีภาพของประชาชน (มาตรา๑๖(๕))
          ๗. การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัวและการรักษาพยาบาล (มาตรา ๑๖ (๑๙))
๓. ด้านการจัดระเบียบชุมชน สังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (มาตรา ๖๗(๔))
๒. การคุ้มครองดูแล และรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน (มาตรา ๖๘(๘))
๓. การผังเมือง (มาตรา ๖๘ (๑๓))
๔. จัดให้มีที่จอดรถ (มาตรา ๑๖ (๓))
๕. การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (มาตรา ๑๖ (๑๗))
๖. การควบคุมอาคาร (มาตรา ๑๖ (๒๘))
๗. การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน (มาตรา ๑๖ (๓๐))
๔. ด้านการวางแผน การส่งเสริมการลงทุน พาณิชยกรรมและการท่องเที่ยว มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. ส่งเสริมให้มีอุตสาหกรรมในครอบครัว (มาตรา ๖๘ (๖) )
๒. ให้มีและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรและกิจการสหกรณ์ (มาตรา ๖๘ (๕) )
๓. บำรุงและส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎร ( มาตรา ๖๘(๗) )
๔. ให้มีตลาด (มาตรา ๖๘ (๑๐) )
๕. การส่งเสริม การฝึกอบรม และการประกอบอาชีพ (มาตรา ๑๖ (๑๖) )
๖. การส่งเสริมการท่องเที่ยว ( มาตรา ๖๘ (๑๒) )
๗. กิจการเกี่ยวกับการพาณิชย์ ( มาตรา ๖๘ (๑๑) )
๘. การพาณิชยกรรมและการส่งเสริมการลงทุน (มาตรา ๑๖ (๗) )
๕. ด้านการบริหารจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. คุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (มาตรา ๖๗ (๗))
๒. การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (มาตรา ๑๖ (๒๔))
๓. รักษาความสะอาดของถนน ทางน้ำ ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมทั้งกำจัดมูลฝอยและ      สิ่งปฏิกูล (มาตรา ๖๗ (๒))
๔. การจัดการสิ่งแวดล้อมและมลพิษต่างๆ (มาตรา ๑๗ (๑๒) )
๖. ด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น (มาตรา ๖๗ (๘))
๒. ส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (มาตรา ๖๗ (๕))
๓. การจัดการศึกษา (มาตรา ๑๖ (๙))
๔. การส่งเสริมการกีฬา จารีตประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น (มาตรา ๑๗(๑๘)
๗. ด้านการบริหารจัดการและการสนับสนุน การปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีภารกิจที่ เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. สนับสนุนสภาตำบลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในการพัฒนาท้องถิ่น (มาตรา๔๕ (๓))
๒. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ทางราชการมอบหมายโดยจัดสรรงบประมาณหรือบุคลากรตามความ จำเป็นและสมควร (มาตรา ๖๗ (๙))
๓. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการมีมาตรการป้องกัน (มาตรา ๑๖ (๑๖))
๔. การประสานและให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มาตรา ๑๗ (๓))
๕. การสร้างและบำรุงรักษาทางบกและทางน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น (มาตรา ๑๗ (๑๖))
          ภารกิจทั้ง ๗ ด้านตามที่กฎหมายกำหนดให้อำนาจองค์การบริหารส่วนตำบล สามารถจะแก้ไขปัญหาขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชน ในเขตพื้นที่ประกอบด้วยการดำเนินการ ขององค์การบริหารส่วนตำบล จะต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนาอำเภอ แผนพัฒนาตำบล นโยบายของรัฐบาล และนโยบายของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นสำคัญ
ภารกิจหลัก
๑. ด้านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
๒. ด้านการสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา คนพิการและผู้ด้อยโอกาส
๓. ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๔. ด้านการพัฒนาการเมืองการบริหาร
๕. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
๖. ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
๗. ด้านการปรับปรุงและพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา เป็นต้น
๘. ด้านการรักษาความสะอาด การกำจัดขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล
๙. การป้องกันและระงับโรคติดต่อ
๑๐. การพัฒนาและปรับปรุงการเมืองและการบริหาร
๑๑. การส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มอาชีพและการเพิ่มรายได้แก่ราษฎร
๑๒. การฟื้นฟูและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น
๑๓. การส่งเสริมและเสริมสร้างให้ราษฎรมีสุขภาพแข็งแรง
๑๔. การส่งเสริมการเกษตรและการประกอบอาชีพทางการเกษตร
๑๕. การจัดทำแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบล
๑๖. การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ภารกิจรอง
๑. ด้านการจัดระเบียบชุมชน สังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย
๒. การคุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๓. การสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมในครัวเรือน
๔. การคุ้มครองดูแล และรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
๕. การฟื้นฟูวัฒนธรรมและส่งเสริมประเพณีในท้องถิ่น
๖. การสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพกลุ่มอาชีพ
๗. การส่งเสริมการเกษตรและการประกอบอาชีพทางการเกษตร
๘. ด้านการวางแผน การส่งเสริมการลงทุนประกอบการค้า
๙. การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
๑๐. การสาธารณสุข การอนามัยครัวเรือน และการรักษาพยาบาล
๑๑. การจัดการ การบำรุง และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๑๒. การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของราษฎร

../add_file/

1 ภารกิจ อำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

1.1 การวิเคราะห์ศักยภาพในการพัฒนาตามหลัก SWOT ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง   แบบองค์รวม มีดังนี้

 จุดแข็ง (Strength=s) 

  1. ประชาชนมีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่น ทั้งในโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิต
  2. ชุมชนเข้มแข็งได้รับการบริการสาธารณะด้านโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนสมบูรณ์
  3. มีโรงเรียนประถมศึกษา ๕ แห่ง โรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาส (ม.๓) ๒ แห่ง สามารถรองรับการเรียนของนักเรียนได้อย่างเพียงพอ
  4. องค์การบริหารส่วนตำบลที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับการบริการสาธารณะ
  5. มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลกับส่วนราชการอื่นในพื้นที่
  6. มีพื้นที่ป่าไม้ทำให้สภาพแวดล้อมธรรมชาติดี
  7. มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อกองทุนหมู่บ้าน ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนในชุมชน

จุดอ่อน (Weak-W )

  1. เป็นชุมชนที่มีการปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน
  2. ประชาชนมีรายได้น้อย ฐานะยากจน และขาดที่ทำกิน
  3. ประชาชนไม่มีงานทำนอกฤดูทำนา
  4. เด็กและเยาวชนบางส่วนไม่สามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
  5. ประชาชนออกไปหางานทำนอกพื้นที่
  6. มีการบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์
  7. กลุ่มอาชีพยังไม่เข้มแข็ง
  8. ประชาชนยังขาดความเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเอง
  9. ศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นขาดการสืบสาน

โอกาส (Opportunity – O)

  1. องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถสนับสนุนงบประมาณให้องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงที่มีแผนงานโครงการตามแนวทางยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เช่น  ถนน ขุดลอกคลอง
  2. มีพื้นที่เหมาะสมในการทำการเกษตร ไร่อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และปลูกข้าว
  3. ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงมีพื้นที่ป่าไม้พอที่จะรองรับเป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

อุปสรรค (Threat – T)

  1. ประชาชนขาดแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  2. ประชาชนยังขาดความรู้ในการพัฒนา ผลผลิตทางการเกษตร
  3. ประชาชนยังขาดความรู้ในการร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งกลุ่มต่างๆ
  4. ประชาชนยังขาดจิตสำนึกที่ดี ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
  5. งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลยังมีไม่เพียงพอในการบริหารจัดการให้ครบทุกด้าน

 

1.2 การวิเคราะห์ศักยภาพการพัฒนาท้องถิ่น ตามหลัก SWOT ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง พบว่า

         
ปัจจัยภายในประกอบด้วย

จุดแข็ง (Strength=s) 

  1. ด้านการบริหาร ได้แก่ การแบ่งส่วนราชการ การวางแผน การประสานงาน การมอบอำนาจ
  2. การกำกับดูแล
  3. ระเบียบ กฎหมาย
  4. บุคลากร ได้แก่ อัตรากำลัง คุณภาพ วินัย ทัศนคติ พฤติกรรม
  5. งบประมาณ
  6. ระบบข้อมูล
  7. การประสานงาน/การอำนวยการ/ความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ
  8. ทรัพยากร เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำงาน

ปัจจัยภายนอกประกอบด้วย

  1. ด้านการเมือง ความขัดแย้ง กลุ่มผลประโยชน์
  2. ด้านเศรษฐกิจ
  3. ด้านสังคม
  4. นโยบายรัฐบาล
  5. ทคโนโลยี


จุดแข็งของการพัฒนาในปัจจุบัน

  1. มีสายการบังคับบัญชาที่สั้นและรวดเร็ว
  2. มีงบประมาณเป็นของตนเอง
  3. มีบุคลากรและพื้นที่รับผิดชอบชัดเจน
  4. มีเครื่องมือและเทคโนโลยีเพียงพอ
  5. มีระบบข้อมูลเพียงพอ
  6. มีการแบ่งส่วนราชการที่เหมาะสม
  7. มีการกำกับดูแลอย่างทั่วถึง

จุดแข็งอ่อนของการพัฒนา

  1. มีอัตรากำลังที่น้อยและมีความรู้ไม่เพียงพอ
  2. ระเบียบกฎหมายยังไม่ชัดเจน
  3. ขาดบุคลากรที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการปฏิบัติงาน


          ผลการวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชน

          จุดแข็ง (Streng=s) 

  1. ประชาชนมีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่นทั้งในด้านโครงสร้างและคุณภาพชีวิต
  2. ชุมชนเข้มแข็งได้รับการบริการสาธารณะด้านโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนสมบูรณ์
  3. มีโรงเรียนประถมศึกษา ๕ แห่ง โรงเรียนขยายโอกาส ๒ แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน ๔ แห่ง สามารถรองรับการเรียนของเด็กนักเรียนได้อย่างเพียงพอ
  4. องค์การบริหารส่วนตำบลมีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับการบริการสาธารณะและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
  5. มีการประสานความร่วมมือกันระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลกับส่วนราชการอื่นในพื้นที่
  6. มีป่าไม้มาก ทำให้สภาพแวดล้อมและธรรมชาติดี
  7. มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อกองทุนหมู่บ้าน ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนในชุมชน

          จุดอ่อน (Weakness=W) 

  1. เป็นชุมชนที่มีการปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน
  2. ประชาชนมีรายได้น้อย ฐานะยากจน และขาดที่ทำกิน
  3. ประชาชนไม่มีงานทำนอกฤดูทำนา
  4. เด็กและเยาวชน บางส่วนไม่สามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
  5. ประชาชนออกไปหางานทำนอกพื้นที่
  6. มีการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์
  7. กลุ่มอาชีพยังไม่เข้มแข็ง
  8. ประชาชนยังขาดความเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเอง

อุปสรรคหรือข้อจำกัด (Threat=T) 

  1. ประชาชนขาดแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  2. ประชาชนยังขาดความรู้ในการพัฒนา ผลผลิตทางการเกษตร
  3. ประชาชนยังขาดความรู้ในการร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งกลุ่มต่างๆ
  4. ประชาชนยังขาดจิตสำนึกที่ดีในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
  5. งบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลยังมีไม่เพียงพอในการบริหารจัดการให้ครบทุกด้าน

          โอกาส (Opportunity=O) 

  1. องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถสนับสนุนงบประมาณให้องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงที่มีแผนงานโครงการตามแนวทาง ยุทธศาสตร์การพัฒาจังหวัด เช่น ถนน ขุดลอกคลอง
  2. มีพื้นที่เหมาะสมในการทำการเกษตร ไร่อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และปลูกข้าว
  3. ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงมีพื้นที่ป่าไม้พอที่จะรองรับเป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2. ภารกิจหลัก และภารกิจรอง ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะดำเนินการ
                    การพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงนั้น เป็นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการร่วมคิดร่วมแก้ไขปัญหาร่วมจัดทำส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน ในเขตพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นในทุกด้าน การพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงจะสมบูรณ์ได้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของชุมชนในพื้นที่ เกิดความตระหนักร่วมกันแก้ไขปัญหาและความเข้าใจในแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ยังได้เน้นให้คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาในทุกกลุ่มทุกวัยของประชากร นอกจากนั้นยังได้เน้นการส่งเสริม และสนับสนุนให้การศึกษาเด็กก่อนวัยเรียน และพัฒนาเยาวชนให้พร้อมที่จะเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ โดยยึดกรอบแนวทางในการจัดระเบียบการศึกษา ส่วนด้านพัฒนาอาชีพนั้น จะเน้นพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเองในท้องถิ่น และยังจัดให้ตั้งเศรษฐกิจแบบพอเพียงโดยส่วนรวม
                    การวิเคราะห์ภารกิจ  อำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ และรวบรวมกฎหมายอื่นขององค์การบริหารส่วนตำบล ใช้เทคนิค SWOT เข้ามาช่วย ทั้งนี้เพื่อให้ทราบว่าองค์การบริหารส่วนตำบล มีอำนาจหน้าที่ที่จะเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาในเขตพื้นที่ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนได้อย่างไร โดยวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส  ภัยคุกคามในการดำเนินการตามภารกิจ
๑. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีภารกิจที่เกี่ยวข้องดังนี้
                   ๑. ก่อสร้างและปรับปรุงเส้นทางการคมนาคม สิ่งอำนวยความสะดวก กิจการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่างๆ ให้ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่อยู่ในเขตขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เป็นภารกิจหลักตามมาตรา มาตรา ๖๗ (๑) จัดให้มีและบำรุงรักษาทางน้ำและทางบก
๒. ให้มีน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและการเกษตร (มาตรา ๖๘ (๑) )
๓. ให้มีและบำรุงการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น (มาตรา ๖๘ (๒) )
๔. ให้มีและบำรุงรักษาทางระบายน้ำ (มาตรา ๖๘ (๓) )
๕. การสาธารณูปโภคและการก่อสร้างอื่นๆ (มาตรา ๑๖ (๔) )
๖. การสาธารณูปการ (มาตรา ๑๖ (๕) )
๒. ด้านส่งเสริมคุณภาพชีวิต มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 
๑. ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ( มาตรา ๖๗ (๖) )
๒. ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ (มาตรา ๖๗ (๓) )
๓. ให้มีและบำรุงสถานที่ประชุม การกีฬาการพักผ่อนหย่อนใจและสวนสาธารณะ (มาตรา ๖๘ (๔)) 
๔. การสังคมสงเคราะห์และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส (มาตรา ๑๖(๑๐))
๕. การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย (มาตรา ๑๖ (๒) )
๖. การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาคและสิทธิเสรีภาพของประชาชน (มาตรา๑๖(๕))
          ๗. การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัวและการรักษาพยาบาล (มาตรา ๑๖ (๑๙))
๓. ด้านการจัดระเบียบชุมชน สังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (มาตรา ๖๗(๔))
๒. การคุ้มครองดูแล และรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน (มาตรา ๖๘(๘))
๓. การผังเมือง (มาตรา ๖๘ (๑๓))
๔. จัดให้มีที่จอดรถ (มาตรา ๑๖ (๓))
๕. การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (มาตรา ๑๖ (๑๗))
๖. การควบคุมอาคาร (มาตรา ๑๖ (๒๘))
๗. การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน (มาตรา ๑๖ (๓๐))
๔. ด้านการวางแผน การส่งเสริมการลงทุน พาณิชยกรรมและการท่องเที่ยว มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. ส่งเสริมให้มีอุตสาหกรรมในครอบครัว (มาตรา ๖๘ (๖) )
๒. ให้มีและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรและกิจการสหกรณ์ (มาตรา ๖๘ (๕) )
๓. บำรุงและส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎร ( มาตรา ๖๘(๗) )
๔. ให้มีตลาด (มาตรา ๖๘ (๑๐) )
๕. การส่งเสริม การฝึกอบรม และการประกอบอาชีพ (มาตรา ๑๖ (๑๖) )
๖. การส่งเสริมการท่องเที่ยว ( มาตรา ๖๘ (๑๒) )
๗. กิจการเกี่ยวกับการพาณิชย์ ( มาตรา ๖๘ (๑๑) )
๘. การพาณิชยกรรมและการส่งเสริมการลงทุน (มาตรา ๑๖ (๗) )
๕. ด้านการบริหารจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. คุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (มาตรา ๖๗ (๗))
๒. การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (มาตรา ๑๖ (๒๔))
๓. รักษาความสะอาดของถนน ทางน้ำ ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมทั้งกำจัดมูลฝอยและ      สิ่งปฏิกูล (มาตรา ๖๗ (๒))
๔. การจัดการสิ่งแวดล้อมและมลพิษต่างๆ (มาตรา ๑๗ (๑๒) )
๖. ด้านการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น มีภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น (มาตรา ๖๗ (๘))
๒. ส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (มาตรา ๖๗ (๕))
๓. การจัดการศึกษา (มาตรา ๑๖ (๙))
๔. การส่งเสริมการกีฬา จารีตประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น (มาตรา ๑๗(๑๘)
๗. ด้านการบริหารจัดการและการสนับสนุน การปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีภารกิจที่ เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. สนับสนุนสภาตำบลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในการพัฒนาท้องถิ่น (มาตรา๔๕ (๓))
๒. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ทางราชการมอบหมายโดยจัดสรรงบประมาณหรือบุคลากรตามความ จำเป็นและสมควร (มาตรา ๖๗ (๙))
๓. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการมีมาตรการป้องกัน (มาตรา ๑๖ (๑๖))
๔. การประสานและให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มาตรา ๑๗ (๓))
๕. การสร้างและบำรุงรักษาทางบกและทางน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น (มาตรา ๑๗ (๑๖))
          ภารกิจทั้ง ๗ ด้านตามที่กฎหมายกำหนดให้อำนาจองค์การบริหารส่วนตำบล สามารถจะแก้ไขปัญหาขององค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชน ในเขตพื้นที่ประกอบด้วยการดำเนินการ ขององค์การบริหารส่วนตำบล จะต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนาอำเภอ แผนพัฒนาตำบล นโยบายของรัฐบาล และนโยบายของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นสำคัญ
ภารกิจหลัก
๑. ด้านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
๒. ด้านการสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา คนพิการและผู้ด้อยโอกาส
๓. ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๔. ด้านการพัฒนาการเมืองการบริหาร
๕. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
๖. ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
๗. ด้านการปรับปรุงและพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา เป็นต้น
๘. ด้านการรักษาความสะอาด การกำจัดขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล
๙. การป้องกันและระงับโรคติดต่อ
๑๐. การพัฒนาและปรับปรุงการเมืองและการบริหาร
๑๑. การส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มอาชีพและการเพิ่มรายได้แก่ราษฎร
๑๒. การฟื้นฟูและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น
๑๓. การส่งเสริมและเสริมสร้างให้ราษฎรมีสุขภาพแข็งแรง
๑๔. การส่งเสริมการเกษตรและการประกอบอาชีพทางการเกษตร
๑๕. การจัดทำแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบล
๑๖. การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ภารกิจรอง
๑. ด้านการจัดระเบียบชุมชน สังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย
๒. การคุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๓. การสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมในครัวเรือน
๔. การคุ้มครองดูแล และรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
๕. การฟื้นฟูวัฒนธรรมและส่งเสริมประเพณีในท้องถิ่น
๖. การสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพกลุ่มอาชีพ
๗. การส่งเสริมการเกษตรและการประกอบอาชีพทางการเกษตร
๘. ด้านการวางแผน การส่งเสริมการลงทุนประกอบการค้า
๙. การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
๑๐. การสาธารณสุข การอนามัยครัวเรือน และการรักษาพยาบาล
๑๑. การจัดการ การบำรุง และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๑๒. การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของราษฎร


ชื่อไฟล์ :

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา

ไม่ว่าท่านจะเคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับการจัดทำเว็บไซต์...

เราพร้อมที่จะพัฒนาให้ระบบทำงานได้ดี และรวดเร็วง่ายสำหรับทุกคน

file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์:

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา

ไม่ว่าท่านจะเคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับการจัดทำเว็บไซต์...

เราพร้อมที่จะพัฒนาให้ระบบทำงานได้ดี และรวดเร็วง่ายสำหรับทุกคน

../add_file/

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา

ไม่ว่าท่านจะเคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับการจัดทำเว็บไซต์...

เราพร้อมที่จะพัฒนาให้ระบบทำงานได้ดี และรวดเร็วง่ายสำหรับทุกคน


ชื่อไฟล์ :
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์:
../add_file/

ชื่อไฟล์ :

เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ

file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์:

เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ

../add_file/

เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ


ชื่อไฟล์ :

การพัฒนาระบบของเรา

file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์:

การพัฒนาระบบของเรา

../add_file/

การพัฒนาระบบของเรา


ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุงข้อมูล... file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุงข้อมูล... ../add_file/ รอปรับปรุงข้อมูล...
ชื่อไฟล์ :

วิสัยทัศน์การพัฒนา
องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง

 
“ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์  ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”

วิสัยทัศน์การพัฒนา
องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง

 
“ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์  ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:

วิสัยทัศน์การพัฒนา
องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง

 
“ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์  ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”

../add_file/

วิสัยทัศน์การพัฒนา
องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง

 
“ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์  ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”


ชื่อไฟล์ :
  ส่วนที่ ๑
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
 
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง  
    • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน      ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์   ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง  เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑                                             • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ                                                                                                                                                   อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร                                                                                                   
          ๑.๒  เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๑.๓  ภูมิประเทศและอาณาเขต
    • ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
    • อาณาเขต
ทิศเหนือ          ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ    อำเภอเมือง    จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้              ติดต่อกับตำบลสะเดา    อำเภอพลับพลาชัย    จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก      ติดต่อกับตำบลแสลงโทน   อำเภอประโคนชัย      จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก    ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น     อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑  แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457  จำนวน  11  หมู่บ้าน            ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง                 หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี                หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น                หมู่ที่  ๖  บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่                 หมู่ที่  ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน               หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
          ๒.๒  เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล   ๑  เขตเลือกตั้ง  สมาชิกสภาออกเป็น  ๑๑  เขต                          
๓. ประชากร
๓.๑  ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น  ๘,๓๕๗  คน  แยกเป็น ชาย  ๔,๒๖๕  คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙  ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
          ๔.๑ การศึกษา
                   ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              
   -  โรงเรียนวัดสำโรง
   -  โรงเรียนบ้านตะโกรี
   -  โรงเรียนบ้านเสม็ด
   -  โรงเรียนพุทธบารมี
   - โรงเรียนบ้านประดู่                                                                                                                                             
 ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 
   -  ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล               ๑       แห่ง
   -  ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน                 ๑       แห่ง
          ๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
            - วัด / สำนักสงฆ์                 ๖       แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
   - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง       ๑       แห่ง
   - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ       ๑๐๐ %                                                                           
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
           -  ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)   ๑    แห่ง                                                
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
          ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                            
                      - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
          ๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)           ๑        แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                             ๑๑      แห่ง     
          ๕.๓  การไฟฟ้า 
        - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน                                                                                                  
๖.  สภาพทางเศรษฐกิจ
          ๖.๑  อาชีพ
        ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
          ๖.๒  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
                     - โรงสี (ขนาดเล็ก)                              ๑๗      แห่ง
                     - ค้าขาย                                            ๘๙       แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑  การนับถือศาสนา            
-  ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ  ร้อยละ  ๙๘
๘.๒  ประเพณี และง่านประจำปี
-  ประเพณีวันขึ้นปีใหม่                           ประมาณเดือน    มกราคม
-  ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง                       ประมาณเดือน   มกราคม
-  แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด        ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีทำบุญกลางบ้าน                     ประมาณเดือน    พฤษภาคม
-  ประเพณีวันสงกรานต์                           ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีลอยกระทง                              ประมาณเดือน    พฤศจิกายน
-  ประเพณีวันเข้าพรรษา  ออกพรรษา        ประมาณเดือน  กรกฎาคม  ตุลาคม  พฤศจิกายน
๘.๓  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น   ส่วนมากร้อยละ ๙๐ %  พูดภาษาอิสาน  
๘.๔  ภูมิปัญญาท้องถิ่น   ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ได้แก่  วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน  วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม  วิธีการทอเสื่อจากต้นกก  และวิธีการจับปลาธรรมชาติ 
๘.๕  สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก  ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม  เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด    
 
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
          ๙.๑ แหล่งน้ำ
                   ๙.๑.๑  แหล่งน้ำธรรมชาติ
                             - ลำห้วย,ลำน้ำ      ๙        สาย
                             - หนองน้ำ            ๖        แห่ง
                             - สระน้ำ               ๙        แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
                             - ฝายน้ำล้น         ๕        แห่ง
                             - บ่อน้ำตื้น          ๑        แห่ง
                             - บ่อบ่อบาดาล    ๖๐      แห่ง
-  ใช้ได้          ๒๕      แห่ง
-  ใช้ไม่ได้       ๓๕      แห่ง
        -  ประปา            ๑๓      แห่ง
-  ใช้ได้           ๙        แห่ง
-  ใช้ไม่ได้       ๑        แห่ง
                            -  ถังน้ำ  คสล.     ๙        แห่ง  (ใช้ได้ทั้งหมด)
          ๙.๒ ป่าไม้   มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม   ๐.๖๔  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๔๐๐  ไร่    บริเวณหมู่ที่ ๓  บ้านตะโกรี
         
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
          ๑๐.๑  กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
                    - ลูกเสือชาวบ้าน                              ๓    รุ่น    ๔๕๐    คน
                    - ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน     ๓    รุ่น    ๑๔๖    คน
  ส่วนที่ ๑
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
 
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง  
    • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน      ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์   ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง  เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑                                             • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ                                                                                                                                                   อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร                                                                                                   
          ๑.๒  เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๑.๓  ภูมิประเทศและอาณาเขต
    • ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
    • อาณาเขต
ทิศเหนือ          ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ    อำเภอเมือง    จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้              ติดต่อกับตำบลสะเดา    อำเภอพลับพลาชัย    จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก      ติดต่อกับตำบลแสลงโทน   อำเภอประโคนชัย      จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก    ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น     อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑  แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457  จำนวน  11  หมู่บ้าน            ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง                 หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี                หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น                หมู่ที่  ๖  บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่                 หมู่ที่  ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน               หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
          ๒.๒  เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล   ๑  เขตเลือกตั้ง  สมาชิกสภาออกเป็น  ๑๑  เขต                          
๓. ประชากร
๓.๑  ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น  ๘,๓๕๗  คน  แยกเป็น ชาย  ๔,๒๖๕  คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙  ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
          ๔.๑ การศึกษา
                   ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              
   -  โรงเรียนวัดสำโรง
   -  โรงเรียนบ้านตะโกรี
   -  โรงเรียนบ้านเสม็ด
   -  โรงเรียนพุทธบารมี
   - โรงเรียนบ้านประดู่                                                                                                                                             
 ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 
   -  ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล               ๑       แห่ง
   -  ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน                 ๑       แห่ง
          ๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
            - วัด / สำนักสงฆ์                 ๖       แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
   - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง       ๑       แห่ง
   - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ       ๑๐๐ %                                                                           
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
           -  ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)   ๑    แห่ง                                                
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
          ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                            
                      - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
          ๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)           ๑        แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                             ๑๑      แห่ง     
          ๕.๓  การไฟฟ้า 
        - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน                                                                                                  
๖.  สภาพทางเศรษฐกิจ
          ๖.๑  อาชีพ
        ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
          ๖.๒  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
                     - โรงสี (ขนาดเล็ก)                              ๑๗      แห่ง
                     - ค้าขาย                                            ๘๙       แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑  การนับถือศาสนา            
-  ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ  ร้อยละ  ๙๘
๘.๒  ประเพณี และง่านประจำปี
-  ประเพณีวันขึ้นปีใหม่                           ประมาณเดือน    มกราคม
-  ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง                       ประมาณเดือน   มกราคม
-  แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด        ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีทำบุญกลางบ้าน                     ประมาณเดือน    พฤษภาคม
-  ประเพณีวันสงกรานต์                           ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีลอยกระทง                              ประมาณเดือน    พฤศจิกายน
-  ประเพณีวันเข้าพรรษา  ออกพรรษา        ประมาณเดือน  กรกฎาคม  ตุลาคม  พฤศจิกายน
๘.๓  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น   ส่วนมากร้อยละ ๙๐ %  พูดภาษาอิสาน  
๘.๔  ภูมิปัญญาท้องถิ่น   ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ได้แก่  วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน  วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม  วิธีการทอเสื่อจากต้นกก  และวิธีการจับปลาธรรมชาติ 
๘.๕  สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก  ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม  เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด    
 
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
          ๙.๑ แหล่งน้ำ
                   ๙.๑.๑  แหล่งน้ำธรรมชาติ
                             - ลำห้วย,ลำน้ำ      ๙        สาย
                             - หนองน้ำ            ๖        แห่ง
                             - สระน้ำ               ๙        แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
                             - ฝายน้ำล้น         ๕        แห่ง
                             - บ่อน้ำตื้น          ๑        แห่ง
                             - บ่อบ่อบาดาล    ๖๐      แห่ง
-  ใช้ได้          ๒๕      แห่ง
-  ใช้ไม่ได้       ๓๕      แห่ง
        -  ประปา            ๑๓      แห่ง
-  ใช้ได้           ๙        แห่ง
-  ใช้ไม่ได้       ๑        แห่ง
                            -  ถังน้ำ  คสล.     ๙        แห่ง  (ใช้ได้ทั้งหมด)
          ๙.๒ ป่าไม้   มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม   ๐.๖๔  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๔๐๐  ไร่    บริเวณหมู่ที่ ๓  บ้านตะโกรี
         
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
          ๑๐.๑  กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
                    - ลูกเสือชาวบ้าน                              ๓    รุ่น    ๔๕๐    คน
                    - ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน     ๓    รุ่น    ๑๔๖    คน
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์:
  ส่วนที่ ๑
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
 
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง  
    • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน      ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์   ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง  เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑                                             • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ                                                                                                                                                   อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร                                                                                                   
          ๑.๒  เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๑.๓  ภูมิประเทศและอาณาเขต
    • ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
    • อาณาเขต
ทิศเหนือ          ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ    อำเภอเมือง    จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้              ติดต่อกับตำบลสะเดา    อำเภอพลับพลาชัย    จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก      ติดต่อกับตำบลแสลงโทน   อำเภอประโคนชัย      จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก    ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น     อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑  แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457  จำนวน  11  หมู่บ้าน            ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง                 หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี                หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น                หมู่ที่  ๖  บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่                 หมู่ที่  ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน               หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
          ๒.๒  เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล   ๑  เขตเลือกตั้ง  สมาชิกสภาออกเป็น  ๑๑  เขต                          
๓. ประชากร
๓.๑  ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น  ๘,๓๕๗  คน  แยกเป็น ชาย  ๔,๒๖๕  คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙  ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
          ๔.๑ การศึกษา
                   ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              
   -  โรงเรียนวัดสำโรง
   -  โรงเรียนบ้านตะโกรี
   -  โรงเรียนบ้านเสม็ด
   -  โรงเรียนพุทธบารมี
   - โรงเรียนบ้านประดู่                                                                                                                                             
 ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 
   -  ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล               ๑       แห่ง
   -  ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน                 ๑       แห่ง
          ๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
            - วัด / สำนักสงฆ์                 ๖       แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
   - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง       ๑       แห่ง
   - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ       ๑๐๐ %                                                                           
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
           -  ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)   ๑    แห่ง                                                
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
          ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                            
                      - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
          ๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)           ๑        แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                             ๑๑      แห่ง     
          ๕.๓  การไฟฟ้า 
        - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน                                                                                                  
๖.  สภาพทางเศรษฐกิจ
          ๖.๑  อาชีพ
        ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
          ๖.๒  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
                     - โรงสี (ขนาดเล็ก)                              ๑๗      แห่ง
                     - ค้าขาย                                            ๘๙       แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑  การนับถือศาสนา            
-  ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ  ร้อยละ  ๙๘
๘.๒  ประเพณี และง่านประจำปี
-  ประเพณีวันขึ้นปีใหม่                           ประมาณเดือน    มกราคม
-  ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง                       ประมาณเดือน   มกราคม
-  แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด        ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีทำบุญกลางบ้าน                     ประมาณเดือน    พฤษภาคม
-  ประเพณีวันสงกรานต์                           ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีลอยกระทง                              ประมาณเดือน    พฤศจิกายน
-  ประเพณีวันเข้าพรรษา  ออกพรรษา        ประมาณเดือน  กรกฎาคม  ตุลาคม  พฤศจิกายน
๘.๓  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น   ส่วนมากร้อยละ ๙๐ %  พูดภาษาอิสาน  
๘.๔  ภูมิปัญญาท้องถิ่น   ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ได้แก่  วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน  วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม  วิธีการทอเสื่อจากต้นกก  และวิธีการจับปลาธรรมชาติ 
๘.๕  สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก  ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม  เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด    
 
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
          ๙.๑ แหล่งน้ำ
                   ๙.๑.๑  แหล่งน้ำธรรมชาติ
                             - ลำห้วย,ลำน้ำ      ๙        สาย
                             - หนองน้ำ            ๖        แห่ง
                             - สระน้ำ               ๙        แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
                             - ฝายน้ำล้น         ๕        แห่ง
                             - บ่อน้ำตื้น          ๑        แห่ง
                             - บ่อบ่อบาดาล    ๖๐      แห่ง
-  ใช้ได้          ๒๕      แห่ง
-  ใช้ไม่ได้       ๓๕      แห่ง
        -  ประปา            ๑๓      แห่ง
-  ใช้ได้           ๙        แห่ง
-  ใช้ไม่ได้       ๑        แห่ง
                            -  ถังน้ำ  คสล.     ๙        แห่ง  (ใช้ได้ทั้งหมด)
          ๙.๒ ป่าไม้   มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม   ๐.๖๔  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๔๐๐  ไร่    บริเวณหมู่ที่ ๓  บ้านตะโกรี
         
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
          ๑๐.๑  กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
                    - ลูกเสือชาวบ้าน                              ๓    รุ่น    ๔๕๐    คน
                    - ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน     ๓    รุ่น    ๑๔๖    คน
../add_file/
  ส่วนที่ ๑
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
 
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง  
    • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน      ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์   ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง  เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑                                             • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ                                                                                                                                                   อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร                                                                                                   
          ๑.๒  เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๑.๓  ภูมิประเทศและอาณาเขต
    • ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
    • อาณาเขต
ทิศเหนือ          ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ    อำเภอเมือง    จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้              ติดต่อกับตำบลสะเดา    อำเภอพลับพลาชัย    จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก      ติดต่อกับตำบลแสลงโทน   อำเภอประโคนชัย      จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก    ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น     อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑  แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457  จำนวน  11  หมู่บ้าน            ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง                 หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี                หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น                หมู่ที่  ๖  บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่                 หมู่ที่  ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน               หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
          ๒.๒  เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล   ๑  เขตเลือกตั้ง  สมาชิกสภาออกเป็น  ๑๑  เขต                          
๓. ประชากร
๓.๑  ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น  ๘,๓๕๗  คน  แยกเป็น ชาย  ๔,๒๖๕  คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙  ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
          ๔.๑ การศึกษา
                   ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              
   -  โรงเรียนวัดสำโรง
   -  โรงเรียนบ้านตะโกรี
   -  โรงเรียนบ้านเสม็ด
   -  โรงเรียนพุทธบารมี
   - โรงเรียนบ้านประดู่                                                                                                                                             
 ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 
   -  ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล               ๑       แห่ง
   -  ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน                 ๑       แห่ง
          ๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
            - วัด / สำนักสงฆ์                 ๖       แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
   - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง       ๑       แห่ง
   - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ       ๑๐๐ %                                                                           
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
           -  ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)   ๑    แห่ง                                                
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
          ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                            
                      - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
          ๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)           ๑        แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                             ๑๑      แห่ง     
          ๕.๓  การไฟฟ้า 
        - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน                                                                                                  
๖.  สภาพทางเศรษฐกิจ
          ๖.๑  อาชีพ
        ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
          ๖.๒  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
                     - โรงสี (ขนาดเล็ก)                              ๑๗      แห่ง
                     - ค้าขาย                                            ๘๙       แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑  การนับถือศาสนา            
-  ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ  ร้อยละ  ๙๘
๘.๒  ประเพณี และง่านประจำปี
-  ประเพณีวันขึ้นปีใหม่                           ประมาณเดือน    มกราคม
-  ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง                       ประมาณเดือน   มกราคม
-  แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด        ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีทำบุญกลางบ้าน                     ประมาณเดือน    พฤษภาคม
-  ประเพณีวันสงกรานต์                           ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีลอยกระทง                              ประมาณเดือน    พฤศจิกายน
-  ประเพณีวันเข้าพรรษา  ออกพรรษา        ประมาณเดือน  กรกฎาคม  ตุลาคม  พฤศจิกายน
๘.๓  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น   ส่วนมากร้อยละ ๙๐ %  พูดภาษาอิสาน  
๘.๔  ภูมิปัญญาท้องถิ่น   ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ได้แก่  วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน  วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม  วิธีการทอเสื่อจากต้นกก  และวิธีการจับปลาธรรมชาติ 
๘.๕  สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก  ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม  เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด    
 
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
          ๙.๑ แหล่งน้ำ
                   ๙.๑.๑  แหล่งน้ำธรรมชาติ
                             - ลำห้วย,ลำน้ำ      ๙        สาย
                             - หนองน้ำ            ๖        แห่ง
                             - สระน้ำ               ๙        แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
                             - ฝายน้ำล้น         ๕        แห่ง
                             - บ่อน้ำตื้น          ๑        แห่ง
                             - บ่อบ่อบาดาล    ๖๐      แห่ง
-  ใช้ได้          ๒๕      แห่ง
-  ใช้ไม่ได้       ๓๕      แห่ง
        -  ประปา            ๑๓      แห่ง
-  ใช้ได้           ๙        แห่ง
-  ใช้ไม่ได้       ๑        แห่ง
                            -  ถังน้ำ  คสล.     ๙        แห่ง  (ใช้ได้ทั้งหมด)
          ๙.๒ ป่าไม้   มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม   ๐.๖๔  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๔๐๐  ไร่    บริเวณหมู่ที่ ๓  บ้านตะโกรี
         
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
          ๑๐.๑  กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
                    - ลูกเสือชาวบ้าน                              ๓    รุ่น    ๔๕๐    คน
                    - ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน     ๓    รุ่น    ๑๔๖    คน

ชื่อไฟล์ :

ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา

1)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
 
      แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
-                    ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา  ซ่อมแซมถนน  ทางระบายน้ำ  สะพาน  ท่อระบายน้ำ
-                    การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
-                    การพัฒนาผังเมือง  ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
-                    ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
-                    นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
-                    การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
-                    การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
-                    การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
-                    การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
-                    การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
-                    การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
-                    การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
-                    เศรษฐกิจพอเพียง
-                    การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร

ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา

1)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
 
      แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
-                    ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา  ซ่อมแซมถนน  ทางระบายน้ำ  สะพาน  ท่อระบายน้ำ
-                    การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
-                    การพัฒนาผังเมือง  ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
-                    ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
-                    นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
-                    การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
-                    การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
-                    การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
-                    การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
-                    การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
-                    การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
-                    การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
-                    เศรษฐกิจพอเพียง
-                    การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์:

ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา

1)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
 
      แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
-                    ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา  ซ่อมแซมถนน  ทางระบายน้ำ  สะพาน  ท่อระบายน้ำ
-                    การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
-                    การพัฒนาผังเมือง  ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
-                    ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
-                    นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
-                    การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
-                    การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
-                    การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
-                    การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
-                    การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
-                    การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
-                    การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
-                    เศรษฐกิจพอเพียง
-                    การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร

../add_file/

ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา

1)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5)   ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
 
      แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
-                    ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา  ซ่อมแซมถนน  ทางระบายน้ำ  สะพาน  ท่อระบายน้ำ
-                    การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
-                    การพัฒนาผังเมือง  ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
-                    ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
-                    นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
-                    การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
-                    การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
-                    การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
-                    การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
-                    การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
-                    การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5)  ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
-                    การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
-                    เศรษฐกิจพอเพียง
-                    การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร


ชื่อไฟล์ :
          ๑.  อาชีพ
                     ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
          ๒.  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
                     - โรงสี (ขนาดเล็ก)                                  ๑๗      แห่ง
                     - ค้าขาย                                               ๘๙       แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑.  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒.  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓.  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔.  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
 

 

          ๑.  อาชีพ
                     ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
          ๒.  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
                     - โรงสี (ขนาดเล็ก)                                  ๑๗      แห่ง
                     - ค้าขาย                                               ๘๙       แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑.  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒.  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓.  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔.  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
 

 

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
          ๑.  อาชีพ
                     ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
          ๒.  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
                     - โรงสี (ขนาดเล็ก)                                  ๑๗      แห่ง
                     - ค้าขาย                                               ๘๙       แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑.  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒.  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓.  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔.  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
 

 

../add_file/
          ๑.  อาชีพ
                     ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
          ๒.  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
                     - โรงสี (ขนาดเล็ก)                                  ๑๗      แห่ง
                     - ค้าขาย                                               ๘๙       แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑.  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒.  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓.  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔.  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
 

 


ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
 
๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง 
  •หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
  •ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก
ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร 
๒.  เนื้อที่ 
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๓.  ภูมิประเทศและอาณาเขต
  •ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
  •อาณาเขต
ทิศเหนือ         ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ  อำเภอเมือง  จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้            ติดต่อกับตำบลสะเดา         อำเภอพลับพลาชัย               จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน   อำเภอประโคนชัย                  จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น     อำเภอพลับพลาชัย                จังหวัดบุรีรัมย์
 
จำนวนหมู่บ้าน  ๑๑   หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล  เต็มทั้งหมู่บ้าน  ๑๑ หมู่บ้าน  ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง         หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่  ๖      บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่  ๘   บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐     บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑   บ้านเทวัญ
 
ประชากร
ตำบลสำโรง  มีประชากรทั้งหมด  ๘,๕๖๔  คน แยกเป็นชาย  ๔,๓๘๓คน  หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน  ๒,๐๙๖ครัวเรือน    
 
 
 

 ๑. การศึกษา

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี

โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              

   -  โรงเรียนวัดสำโรง

   -  โรงเรียนบ้านตะโกรี

   -  โรงเรียนบ้านเสม็ด

   -  โรงเรียนพุทธบารมี

   -  โรงเรียนบ้านประดู่  

ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 

   -  ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล      ๑       แห่ง

   -  ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน        ๑       แห่ง

๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา

   - วัด / สำนักสงฆ์                  ๖       แห่ง

๓. การสาธารณสุข

   - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง              ๑      แห่ง

   - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ                               ๑๐๐ %                                                                            

๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

   -  ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)  ๑    แห่ง 

        ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ  อำเภอเมือง  จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้            ติดต่อกับตำบลสะเดา         อำเภอพลับพลาชัย               จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน   อำเภอประโคนชัย                  จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น     อำเภอพลับพลาชัย                จังหวัดบุรีรัมย์
 
จำนวนหมู่บ้าน  ๑๑   หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล  เต็มทั้งหมู่บ้าน  ๑๑ หมู่บ้าน  ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง         หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่  ๖      บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่  ๘   บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐     บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑   บ้านเทวัญ
 
ประชากร
ตำบลสำโรง  มีประชากรทั้งหมด  ๘,๕๖๔  คน แยกเป็นชาย  ๔,๓๘๓คน  หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน  ๒,๐๙๖ครัวเรือน    
 
 
 

 ๑. การศึกษา

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี

โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              

   -  โรงเรียนวัดสำโรง

   -  โรงเรียนบ้านตะโกรี

   -  โรงเรียนบ้านเสม็ด

   -  โรงเรียนพุทธบารมี

   -  โรงเรียนบ้านประดู่  

ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 

   -  ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล      ๑       แห่ง

   -  ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน        ๑       แห่ง

๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา

   - วัด / สำนักสงฆ์                  ๖       แห่ง

๓. การสาธารณสุข

   - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง              ๑      แห่ง

   - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ                               ๑๐๐ %                                                                            

๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

   -  ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)  ๑    แห่ง 

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
 
๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง 
  •หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
  •ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก
ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร 
๒.  เนื้อที่ 
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๓.  ภูมิประเทศและอาณาเขต
  •ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
  •อาณาเขต
ทิศเหนือ         ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ  อำเภอเมือง  จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้            ติดต่อกับตำบลสะเดา         อำเภอพลับพลาชัย               จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน   อำเภอประโคนชัย                  จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น     อำเภอพลับพลาชัย                จังหวัดบุรีรัมย์
 
จำนวนหมู่บ้าน  ๑๑   หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล  เต็มทั้งหมู่บ้าน  ๑๑ หมู่บ้าน  ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง         หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่  ๖      บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่  ๘   บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐     บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑   บ้านเทวัญ
 
ประชากร
ตำบลสำโรง  มีประชากรทั้งหมด  ๘,๕๖๔  คน แยกเป็นชาย  ๔,๓๘๓คน  หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน  ๒,๐๙๖ครัวเรือน    
 
 
 

 ๑. การศึกษา

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี

โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              

   -  โรงเรียนวัดสำโรง

   -  โรงเรียนบ้านตะโกรี

   -  โรงเรียนบ้านเสม็ด

   -  โรงเรียนพุทธบารมี

   -  โรงเรียนบ้านประดู่  

ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 

   -  ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล      ๑       แห่ง

   -  ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน        ๑       แห่ง

๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา

   - วัด / สำนักสงฆ์                  ๖       แห่ง

๓. การสาธารณสุข

   - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง              ๑      แห่ง

   - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ                               ๑๐๐ %                                                                            

๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

   -  ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)  ๑    แห่ง 

../add_file/
 
๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง 
  •หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
  •ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก
ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร 
๒.  เนื้อที่ 
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๓.  ภูมิประเทศและอาณาเขต
  •ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
  •อาณาเขต
ทิศเหนือ         ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ  อำเภอเมือง  จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้            ติดต่อกับตำบลสะเดา         อำเภอพลับพลาชัย               จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน   อำเภอประโคนชัย                  จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น     อำเภอพลับพลาชัย                จังหวัดบุรีรัมย์
 
จำนวนหมู่บ้าน  ๑๑   หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล  เต็มทั้งหมู่บ้าน  ๑๑ หมู่บ้าน  ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง         หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่  ๖      บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่  ๘   บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐     บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑   บ้านเทวัญ
 
ประชากร
ตำบลสำโรง  มีประชากรทั้งหมด  ๘,๕๖๔  คน แยกเป็นชาย  ๔,๓๘๓คน  หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน  ๒,๐๙๖ครัวเรือน    
 
 
 

 ๑. การศึกษา

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี

   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี

โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              

   -  โรงเรียนวัดสำโรง

   -  โรงเรียนบ้านตะโกรี

   -  โรงเรียนบ้านเสม็ด

   -  โรงเรียนพุทธบารมี

   -  โรงเรียนบ้านประดู่  

ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 

   -  ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล      ๑       แห่ง

   -  ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน        ๑       แห่ง

๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา

   - วัด / สำนักสงฆ์                  ๖       แห่ง

๓. การสาธารณสุข

   - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง              ๑      แห่ง

   - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ                               ๑๐๐ %                                                                            

๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

   -  ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)  ๑    แห่ง 


ชื่อไฟล์ :
ระบบบริการพื้นฐาน

          ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                            
                      - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
          ๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)                  ๑        แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                                    ๑๑      แห่ง     
          ๕.๓  การไฟฟ้า 
                      - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน  

ระบบบริการพื้นฐาน

          ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                            
                      - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
          ๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)                  ๑        แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                                    ๑๑      แห่ง     
          ๕.๓  การไฟฟ้า 
                      - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน  

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
ระบบบริการพื้นฐาน

          ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                            
                      - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
          ๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)                  ๑        แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                                    ๑๑      แห่ง     
          ๕.๓  การไฟฟ้า 
                      - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน  

../add_file/
ระบบบริการพื้นฐาน

          ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                            
                      - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
          ๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)                  ๑        แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                                    ๑๑      แห่ง     
          ๕.๓  การไฟฟ้า 
                      - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน  


ชื่อไฟล์ :
 
ประวัติความเป็นมา
-  หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย  จังหวัดบุรีรัมย์
 -  ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
 -  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
 
ประวัติความเป็นมา
-  หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย  จังหวัดบุรีรัมย์
 -  ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
 -  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
 
ประวัติความเป็นมา
-  หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย  จังหวัดบุรีรัมย์
 -  ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
 -  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
../add_file/
 
ประวัติความเป็นมา
-  หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย  จังหวัดบุรีรัมย์
 -  ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
 -  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551

ชื่อไฟล์ :

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:

../add_file/


ชื่อไฟล์ :

มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว

มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:

มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว

../add_file/

มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว


ชื่อไฟล์ :

การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web

ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป

การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web

ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:

การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web

ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป

../add_file/

การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web

ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป


ชื่อไฟล์ : คำถาม : ตอบ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: คำถาม : ตอบ :../add_file/คำถาม : ตอบ :
ชื่อไฟล์ :
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
 ๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง  
               • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน      ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง  เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑    ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร                                                                                                 
๑.๒  เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๑.๓  ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ         ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ  อำเภอเมือง               จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้             ติดต่อกับตำบลสะเดา                                อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก    ติดต่อกับตำบลแสลงโทน                           อำเภอประโคนชัย      จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก  ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น                             อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑  แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗  จำนวน  ๑๑  หมู่บ้าน    ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง                 หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี                หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น                หมู่ที่  ๖  บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่                 หมู่ที่  ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน              หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒  เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล   ๑  เขตเลือกตั้ง  สมาชิกสภาออกเป็น  ๑๑  เขต                          
๓. ประชากร
๓.๑  ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น  ๘,๓๕๗  คน  แยกเป็น ชาย  ๔,๒๖๕  คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙  ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง
  -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
     -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              
    -  โรงเรียนวัดสำโรง
    -  โรงเรียนบ้านตะโกรี
  -  โรงเรียนบ้านเสม็ด
    -  โรงเรียนพุทธบารมี
-  โรงเรียนบ้านประดู่                                                                                                                                             • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล                                   ๑       แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน                                      ๑       แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
        - วัด / สำนักสงฆ์                                      ๖       แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
        - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง       ๑       แห่ง
        - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ                        ๑๐๐   %                                                                             
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
        - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)   ๑    แห่ง                                                
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
 ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                                            - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)                  ๑       แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                                    ๑๑      แห่ง     
๕.๓  การไฟฟ้า 
                      - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน                                                                                                  
๖.  สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑  อาชีพ
                     ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
 ๖.๒  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
         - โรงสี (ขนาดเล็ก)                                ๑๗      แห่ง
- ค้าขาย                                               ๘๙     แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
 ๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑  การนับถือศาสนา
-  ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ  ร้อยละ  ๙๘
๘.๒  ประเพณี และง่านประจำปี
-  ประเพณีวันขึ้นปีใหม่        ประมาณเดือน    มกราคม
-  ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน   มกราคม
-  แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน    พฤษภาคม
-  ประเพณีวันสงกรานต์        ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีลอยกระทง        ประมาณเดือน    พฤศจิกายน
-  ประเพณีวันเข้าพรรษา  ออกพรรษา ประมาณเดือน  กรกฎาคม  ตุลาคม  พฤศจิกายน
๘.๓  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ %  พูดภาษาอิสาน  
๘.๔  ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน  วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม  วิธีการทอเสื่อจากต้นกก  และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕  สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก 
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม  เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด    
 ๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑  แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙        สาย
- หนองน้ำ          ๖        แห่ง
- สระน้ำ ๙        แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕        แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑        แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐      แห่ง
-  ใช้ได้ ๒๕      แห่ง
-  ใช้ไม่ได้         ๓๕      แห่ง
-  ประปา ๑๓      แห่ง
-  ใช้ได้  ๙       แห่ง
-  ใช้ไม่ได้         ๑        แห่ง
-  ถังน้ำ  คสล ๙        แห่ง  (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้   
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม   ๐.๖๔  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๔๐๐  ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓  บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑  กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน         ๓    รุ่น    ๔๕๐    คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓    รุ่น    ๑๔๖    คน

 

สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
 ๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง  
               • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน      ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง  เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑    ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร                                                                                                 
๑.๒  เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๑.๓  ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ         ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ  อำเภอเมือง               จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้             ติดต่อกับตำบลสะเดา                                อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก    ติดต่อกับตำบลแสลงโทน                           อำเภอประโคนชัย      จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก  ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น                             อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑  แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗  จำนวน  ๑๑  หมู่บ้าน    ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง                 หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี                หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น                หมู่ที่  ๖  บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่                 หมู่ที่  ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน              หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒  เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล   ๑  เขตเลือกตั้ง  สมาชิกสภาออกเป็น  ๑๑  เขต                          
๓. ประชากร
๓.๑  ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น  ๘,๓๕๗  คน  แยกเป็น ชาย  ๔,๒๖๕  คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙  ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง
  -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
     -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              
    -  โรงเรียนวัดสำโรง
    -  โรงเรียนบ้านตะโกรี
  -  โรงเรียนบ้านเสม็ด
    -  โรงเรียนพุทธบารมี
-  โรงเรียนบ้านประดู่                                                                                                                                             • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล                                   ๑       แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน                                      ๑       แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
        - วัด / สำนักสงฆ์                                      ๖       แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
        - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง       ๑       แห่ง
        - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ                        ๑๐๐   %                                                                             
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
        - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)   ๑    แห่ง                                                
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
 ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                                            - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)                  ๑       แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                                    ๑๑      แห่ง     
๕.๓  การไฟฟ้า 
                      - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน                                                                                                  
๖.  สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑  อาชีพ
                     ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
 ๖.๒  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
         - โรงสี (ขนาดเล็ก)                                ๑๗      แห่ง
- ค้าขาย                                               ๘๙     แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
 ๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑  การนับถือศาสนา
-  ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ  ร้อยละ  ๙๘
๘.๒  ประเพณี และง่านประจำปี
-  ประเพณีวันขึ้นปีใหม่        ประมาณเดือน    มกราคม
-  ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน   มกราคม
-  แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน    พฤษภาคม
-  ประเพณีวันสงกรานต์        ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีลอยกระทง        ประมาณเดือน    พฤศจิกายน
-  ประเพณีวันเข้าพรรษา  ออกพรรษา ประมาณเดือน  กรกฎาคม  ตุลาคม  พฤศจิกายน
๘.๓  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ %  พูดภาษาอิสาน  
๘.๔  ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน  วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม  วิธีการทอเสื่อจากต้นกก  และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕  สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก 
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม  เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด    
 ๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑  แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙        สาย
- หนองน้ำ          ๖        แห่ง
- สระน้ำ ๙        แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕        แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑        แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐      แห่ง
-  ใช้ได้ ๒๕      แห่ง
-  ใช้ไม่ได้         ๓๕      แห่ง
-  ประปา ๑๓      แห่ง
-  ใช้ได้  ๙       แห่ง
-  ใช้ไม่ได้         ๑        แห่ง
-  ถังน้ำ  คสล ๙        แห่ง  (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้   
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม   ๐.๖๔  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๔๐๐  ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓  บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑  กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน         ๓    รุ่น    ๔๕๐    คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓    รุ่น    ๑๔๖    คน

 

" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
 ๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง  
               • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน      ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง  เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑    ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร                                                                                                 
๑.๒  เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๑.๓  ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ         ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ  อำเภอเมือง               จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้             ติดต่อกับตำบลสะเดา                                อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก    ติดต่อกับตำบลแสลงโทน                           อำเภอประโคนชัย      จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก  ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น                             อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑  แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗  จำนวน  ๑๑  หมู่บ้าน    ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง                 หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี                หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น                หมู่ที่  ๖  บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่                 หมู่ที่  ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน              หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒  เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล   ๑  เขตเลือกตั้ง  สมาชิกสภาออกเป็น  ๑๑  เขต                          
๓. ประชากร
๓.๑  ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น  ๘,๓๕๗  คน  แยกเป็น ชาย  ๔,๒๖๕  คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙  ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง
  -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
     -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              
    -  โรงเรียนวัดสำโรง
    -  โรงเรียนบ้านตะโกรี
  -  โรงเรียนบ้านเสม็ด
    -  โรงเรียนพุทธบารมี
-  โรงเรียนบ้านประดู่                                                                                                                                             • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล                                   ๑       แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน                                      ๑       แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
        - วัด / สำนักสงฆ์                                      ๖       แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
        - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง       ๑       แห่ง
        - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ                        ๑๐๐   %                                                                             
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
        - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)   ๑    แห่ง                                                
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
 ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                                            - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)                  ๑       แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                                    ๑๑      แห่ง     
๕.๓  การไฟฟ้า 
                      - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน                                                                                                  
๖.  สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑  อาชีพ
                     ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
 ๖.๒  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
         - โรงสี (ขนาดเล็ก)                                ๑๗      แห่ง
- ค้าขาย                                               ๘๙     แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
 ๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑  การนับถือศาสนา
-  ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ  ร้อยละ  ๙๘
๘.๒  ประเพณี และง่านประจำปี
-  ประเพณีวันขึ้นปีใหม่        ประมาณเดือน    มกราคม
-  ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน   มกราคม
-  แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน    พฤษภาคม
-  ประเพณีวันสงกรานต์        ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีลอยกระทง        ประมาณเดือน    พฤศจิกายน
-  ประเพณีวันเข้าพรรษา  ออกพรรษา ประมาณเดือน  กรกฎาคม  ตุลาคม  พฤศจิกายน
๘.๓  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ %  พูดภาษาอิสาน  
๘.๔  ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน  วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม  วิธีการทอเสื่อจากต้นกก  และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕  สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก 
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม  เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด    
 ๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑  แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙        สาย
- หนองน้ำ          ๖        แห่ง
- สระน้ำ ๙        แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕        แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑        แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐      แห่ง
-  ใช้ได้ ๒๕      แห่ง
-  ใช้ไม่ได้         ๓๕      แห่ง
-  ประปา ๑๓      แห่ง
-  ใช้ได้  ๙       แห่ง
-  ใช้ไม่ได้         ๑        แห่ง
-  ถังน้ำ  คสล ๙        แห่ง  (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้   
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม   ๐.๖๔  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๔๐๐  ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓  บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑  กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน         ๓    รุ่น    ๔๕๐    คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓    รุ่น    ๑๔๖    คน

 

../add_file/
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
 ๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง  
               • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน      ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง  เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙  องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑    ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์  ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร                                                                                                 
๑.๒  เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ  ๕๔.๗๖  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๓๕,๗๑๑  ไร่
๑.๓  ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ  โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง  โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ         ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ  อำเภอเมือง               จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้             ติดต่อกับตำบลสะเดา                                อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก    ติดต่อกับตำบลแสลงโทน                           อำเภอประโคนชัย      จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก  ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น                             อำเภอพลับพลาชัย     จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑  แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗  จำนวน  ๑๑  หมู่บ้าน    ได้แก่
หมู่ที่  ๑ บ้านสำโรง                 หมู่ที่  ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่  ๓ บ้านตะโกรี                หมู่ที่  ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่  ๕ บ้านกัดลิ้น                หมู่ที่  ๖  บ้านโสน
หมู่ที่  ๗ บ้านประดู่                 หมู่ที่  ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่  ๙ บ้านพนาวัน              หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒  เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล   ๑  เขตเลือกตั้ง  สมาชิกสภาออกเป็น  ๑๑  เขต                          
๓. ประชากร
๓.๑  ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น  ๘,๓๕๗  คน  แยกเป็น ชาย  ๔,๒๖๕  คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙  ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์   ๔   แห่ง
  -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
     -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
   -  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา   ๕   แห่ง                                                                              
    -  โรงเรียนวัดสำโรง
    -  โรงเรียนบ้านตะโกรี
  -  โรงเรียนบ้านเสม็ด
    -  โรงเรียนพุทธบารมี
-  โรงเรียนบ้านประดู่                                                                                                                                             • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน    ๑๐  แห่ง 
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล                                   ๑       แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน                                      ๑       แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
        - วัด / สำนักสงฆ์                                      ๖       แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
        - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง       ๑       แห่ง
        - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ                        ๑๐๐   %                                                                             
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
        - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)   ๑    แห่ง                                                
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
 ๕.๑  การคมนาคม                                                                                                                                                                            - เส้นทางการคมนาคม  ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม  ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒  การโทรคมนาคม
                      - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย)                  ๑       แห่ง
                      - โทรศัพท์สาธารณะ                                    ๑๑      แห่ง     
๕.๓  การไฟฟ้า 
                      - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน                                                                                                  
๖.  สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑  อาชีพ
                     ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เช่น  ทำนา  ทำสวน  ปลูกผัก  เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
 ๖.๒  หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
         - โรงสี (ขนาดเล็ก)                                ๑๗      แห่ง
- ค้าขาย                                               ๘๙     แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑  ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒  ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔  ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
 ๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑  การนับถือศาสนา
-  ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ  ร้อยละ  ๙๘
๘.๒  ประเพณี และง่านประจำปี
-  ประเพณีวันขึ้นปีใหม่        ประมาณเดือน    มกราคม
-  ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน   มกราคม
-  แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน    พฤษภาคม
-  ประเพณีวันสงกรานต์        ประมาณเดือน    เมษายน
-  ประเพณีลอยกระทง        ประมาณเดือน    พฤศจิกายน
-  ประเพณีวันเข้าพรรษา  ออกพรรษา ประมาณเดือน  กรกฎาคม  ตุลาคม  พฤศจิกายน
๘.๓  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ %  พูดภาษาอิสาน  
๘.๔  ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน  วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม  วิธีการทอเสื่อจากต้นกก  และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕  สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก 
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม  เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด    
 ๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑  แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙        สาย
- หนองน้ำ          ๖        แห่ง
- สระน้ำ ๙        แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕        แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑        แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐      แห่ง
-  ใช้ได้ ๒๕      แห่ง
-  ใช้ไม่ได้         ๓๕      แห่ง
-  ประปา ๑๓      แห่ง
-  ใช้ได้  ๙       แห่ง
-  ใช้ไม่ได้         ๑        แห่ง
-  ถังน้ำ  คสล ๙        แห่ง  (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้   
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม   ๐.๖๔  ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ  ๔๐๐  ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓  บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑  กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน         ๓    รุ่น    ๔๕๐    คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓    รุ่น    ๑๔๖    คน

 


ชื่อไฟล์ : rVApe4OTue113920.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : usCTiJETue114039.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ตำบลสำโรง อำเภอ พลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ 31250 เบอร์โทร. 044 634 950 โทรสาร. 044 634 950 https://www.samronglocal.go.th อีเมลล์ : admin@samronglocal.go.th file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ตำบลสำโรง อำเภอ พลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ 31250 เบอร์โทร. 044 634 950 โทรสาร. 044 634 950 https://www.samronglocal.go.th อีเมลล์ : admin@samronglocal.go.th../add_file/ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ตำบลสำโรง อำเภอ พลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ 31250 เบอร์โทร. 044 634 950 โทรสาร. 044 634 950 https://www.samronglocal.go.th อีเมลล์ : admin@samronglocal.go.th
ชื่อไฟล์ : " class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : วิดีโอสอนการใช้งาน ระบบจาก youtube คลิกที่นี่เพื่อดูวิดีโอ file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: วิดีโอสอนการใช้งาน ระบบจาก youtube คลิกที่นี่เพื่อดูวิดีโอ../add_file/วิดีโอสอนการใช้งาน ระบบจาก youtube คลิกที่นี่เพื่อดูวิดีโอ
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : pXYBNZkWed105725.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : ybmBPuNWed102536.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รบกวนช่วยแก้ปัญหาน้ำปะปา หมู่บ้าน ตะโกรี น้ำคุ้นมากๆ และชาวบ้านในหมู่บ้านเดาไม่๔ุกเลยว่าน้ำจะไหลเวลาไหน ต้องเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้เพื่อเอาไว้ใช้ น้ำคุ้นมาหลายนปีแล้วครับ รบกวนช่วยแก้ไขให้อย่างเร่งด่วนหน่อยครับ เพราะน้ำไม่สะอาด ต้องเอาไปอาบน้ำ ทำกับข้า่วต่างๆ สิ่งสปปรกในน้ำ ทำให้คนป่วย เกิดโรคต่างๆได้ครับ รบกวนด้วยครับล file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รบกวนช่วยแก้ปัญหาน้ำปะปา หมู่บ้าน ตะโกรี น้ำคุ้นมากๆ และชาวบ้านในหมู่บ้านเดาไม่๔ุกเลยว่าน้ำจะไหลเวลาไหน ต้องเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้เพื่อเอาไว้ใช้ น้ำคุ้นมาหลายนปีแล้วครับ รบกวนช่วยแก้ไขให้อย่างเร่งด่วนหน่อยครับ เพราะน้ำไม่สะอาด ต้องเอาไปอาบน้ำ ทำกับข้า่วต่างๆ สิ่งสปปรกในน้ำ ทำให้คนป่วย เกิดโรคต่างๆได้ครับ รบกวนด้วยครับล ../add_file/รบกวนช่วยแก้ปัญหาน้ำปะปา หมู่บ้าน ตะโกรี น้ำคุ้นมากๆ และชาวบ้านในหมู่บ้านเดาไม่๔ุกเลยว่าน้ำจะไหลเวลาไหน ต้องเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้เพื่อเอาไว้ใช้ น้ำคุ้นมาหลายนปีแล้วครับ รบกวนช่วยแก้ไขให้อย่างเร่งด่วนหน่อยครับ เพราะน้ำไม่สะอาด ต้องเอาไปอาบน้ำ ทำกับข้า่วต่างๆ สิ่งสปปรกในน้ำ ทำให้คนป่วย เกิดโรคต่างๆได้ครับ รบกวนด้วยครับล
ชื่อไฟล์ : eRpQXZgTue33227.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : JdPXcD5Fri10132.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : SkcdmayFri11230.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : i3TcF93Fri12047.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : ICHdyBMMon23021.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : AQLFilDMon23710.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : RR9E5qXMon33628.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : 8Q0NyzKMon40450.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : GW70bgZMon40815.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : y2ZMwPWTue93720.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : vS6vajCWed14130.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : Q89bUVZThu104512.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : xTAim3fThu21300.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : อบต.สำโรง ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มารับบริการหรือติดต่อกับ อบต.สำโรง ได้เข้ามามีส่วนร่วมประเมินหรือแสดงความเห็นต่อการดำเนินงานของ อบต.สำโรง ผ่านการประเมิน ITA โดยท่านสามารถเข้าระบบ ITAS เพื่อร่วมการประเมินฯดังกล่าว ได้ ผ่านช่องทาง ดังนี้ เมื่อเข้าระบบแล้ว ท่านสามารถกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อทำแบบสำรวจด้วยตนเองได้ file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: อบต.สำโรง ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มารับบริการหรือติดต่อกับ อบต.สำโรง ได้เข้ามามีส่วนร่วมประเมินหรือแสดงความเห็นต่อการดำเนินงานของ อบต.สำโรง ผ่านการประเมิน ITA โดยท่านสามารถเข้าระบบ ITAS เพื่อร่วมการประเมินฯดังกล่าว ได้ ผ่านช่องทาง ดังนี้ เมื่อเข้าระบบแล้ว ท่านสามารถกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อทำแบบสำรวจด้วยตนเองได้../add_file/อบต.สำโรง ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มารับบริการหรือติดต่อกับ อบต.สำโรง ได้เข้ามามีส่วนร่วมประเมินหรือแสดงความเห็นต่อการดำเนินงานของ อบต.สำโรง ผ่านการประเมิน ITA โดยท่านสามารถเข้าระบบ ITAS เพื่อร่วมการประเมินฯดังกล่าว ได้ ผ่านช่องทาง ดังนี้ เมื่อเข้าระบบแล้ว ท่านสามารถกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อทำแบบสำรวจด้วยตนเองได้
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : https://itas.nacc.go.th/go/eit/3absze file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: https://itas.nacc.go.th/go/eit/3absze../add_file/https://itas.nacc.go.th/go/eit/3absze
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : Ty4WbbrWed105809.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : Wi2WrvEWed32009.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : yjaujXxWed35050.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : PJw3CxEWed35748.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : Ac3wwaUThu41031.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : ytZvY5qThu25008.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : UHCrcxGThu35753.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : OSsOv7OThu40032.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยมีคำขวัญประจำปี 2567 คือ "ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า" ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกๆ ประเทศตระหนักถึงอันตราย และความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่ file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยมีคำขวัญประจำปี 2567 คือ "ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า" ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกๆ ประเทศตระหนักถึงอันตราย และความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ../add_file/องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยมีคำขวัญประจำปี 2567 คือ "ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า" ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกๆ ประเทศตระหนักถึงอันตราย และความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่
ชื่อไฟล์ : วันงดสูบบุหรี่โลก ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี แต่ละประเทศจะมีการจัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโทษและอันตรายจากบุหรี่ เพื่อให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมและเกิดความตระหนักรู้ file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: วันงดสูบบุหรี่โลก ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี แต่ละประเทศจะมีการจัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโทษและอันตรายจากบุหรี่ เพื่อให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมและเกิดความตระหนักรู้../add_file/วันงดสูบบุหรี่โลก ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี แต่ละประเทศจะมีการจัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโทษและอันตรายจากบุหรี่ เพื่อให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมและเกิดความตระหนักรู้
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ../add_file/เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ
ชื่อไฟล์ : " class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin"> file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : ๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ๑.๒ เนื้อที่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่ ๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต • ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร • อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ๒. ด้านการเมือง/การปกครอง ๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ ๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต ๓. ประชากร ๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน ๔. สภาพสังคม ๔.๑ การศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง - โรงเรียนวัดสำโรง - โรงเรียนบ้านตะโกรี - โรงเรียนบ้านเสม็ด - โรงเรียนพุทธบารมี - โรงเรียนบ้านประดู่ ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง - ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง - ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง ๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา - วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง ๔.๓ การสาธารณสุข - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ % ๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง ๕. ระบบบริการพื้นฐาน ๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน ๕.๒ การโทรคมนาคม - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง - โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง ๕.๓ การไฟฟ้า - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน ๖. สภาพทางเศรษฐกิจ ๖.๑ อาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด ๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต. - โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง - ค้าขาย ๘๙ แห่ง ๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น) ๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน ๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม ๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร ๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ ๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม ๘.๑ การนับถือศาสนา - ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘ ๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี - ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม - ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม - แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม - ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน - ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน ๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน ๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ ๘.๕ สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด ๙. ทรัพยากรธรรมชาติ ๙.๑ แหล่งน้ำ ๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ - ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย - หนองน้ำ ๖ แห่ง - สระน้ำ ๙ แห่ง ๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น - ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง - บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง - บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง - ใช้ได้ ๒๕ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง - ประปา ๑๓ แห่ง - ใช้ได้ ๙ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง - ถังน้ำ คสล. ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด) ๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี ๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย) ๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง - ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน - ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ๑.๒ เนื้อที่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่ ๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต • ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร • อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ๒. ด้านการเมือง/การปกครอง ๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ ๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต ๓. ประชากร ๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน ๔. สภาพสังคม ๔.๑ การศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง - โรงเรียนวัดสำโรง - โรงเรียนบ้านตะโกรี - โรงเรียนบ้านเสม็ด - โรงเรียนพุทธบารมี - โรงเรียนบ้านประดู่ ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง - ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง - ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง ๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา - วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง ๔.๓ การสาธารณสุข - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ % ๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง ๕. ระบบบริการพื้นฐาน ๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน ๕.๒ การโทรคมนาคม - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง - โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง ๕.๓ การไฟฟ้า - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน ๖. สภาพทางเศรษฐกิจ ๖.๑ อาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด ๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต. - โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง - ค้าขาย ๘๙ แห่ง ๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น) ๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน ๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม ๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร ๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ ๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม ๘.๑ การนับถือศาสนา - ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘ ๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี - ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม - ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม - แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม - ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน - ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน ๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน ๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ ๘.๕ สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด ๙. ทรัพยากรธรรมชาติ ๙.๑ แหล่งน้ำ ๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ - ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย - หนองน้ำ ๖ แห่ง - สระน้ำ ๙ แห่ง ๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น - ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง - บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง - บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง - ใช้ได้ ๒๕ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง - ประปา ๑๓ แห่ง - ใช้ได้ ๙ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง - ถังน้ำ คสล. ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด) ๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี ๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย) ๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง - ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน - ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน ../add_file/ ๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ๑.๒ เนื้อที่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่ ๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต • ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร • อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ๒. ด้านการเมือง/การปกครอง ๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ ๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต ๓. ประชากร ๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน ๔. สภาพสังคม ๔.๑ การศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง - โรงเรียนวัดสำโรง - โรงเรียนบ้านตะโกรี - โรงเรียนบ้านเสม็ด - โรงเรียนพุทธบารมี - โรงเรียนบ้านประดู่ ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง - ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง - ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง ๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา - วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง ๔.๓ การสาธารณสุข - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ % ๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง ๕. ระบบบริการพื้นฐาน ๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน ๕.๒ การโทรคมนาคม - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง - โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง ๕.๓ การไฟฟ้า - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน ๖. สภาพทางเศรษฐกิจ ๖.๑ อาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด ๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต. - โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง - ค้าขาย ๘๙ แห่ง ๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น) ๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน ๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม ๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร ๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ ๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม ๘.๑ การนับถือศาสนา - ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘ ๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี - ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม - ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม - แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม - ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน - ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน ๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน ๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ ๘.๕ สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด ๙. ทรัพยากรธรรมชาติ ๙.๑ แหล่งน้ำ ๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ - ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย - หนองน้ำ ๖ แห่ง - สระน้ำ ๙ แห่ง ๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น - ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง - บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง - บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง - ใช้ได้ ๒๕ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง - ประปา ๑๓ แห่ง - ใช้ได้ ๙ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง - ถังน้ำ คสล. ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด) ๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี ๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย) ๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง - ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน - ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
ชื่อไฟล์ : ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา 1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ 3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น 4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่ 5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น 1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน - ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมถนน ทางระบายน้ำ สะพาน ท่อระบายน้ำ - การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ - การพัฒนาผังเมือง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร - ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค 2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ - นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน 3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น - การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ - การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม 4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่ - การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี - การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ - การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่ - การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี 5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม - การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา - เศรษฐกิจพอเพียง - การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา 1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ 3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น 4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่ 5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น 1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน - ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมถนน ทางระบายน้ำ สะพาน ท่อระบายน้ำ - การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ - การพัฒนาผังเมือง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร - ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค 2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ - นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน 3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น - การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ - การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม 4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่ - การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี - การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ - การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่ - การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี 5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม - การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา - เศรษฐกิจพอเพียง - การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร ../add_file/ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา 1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ 3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น 4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่ 5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น 1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน - ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมถนน ทางระบายน้ำ สะพาน ท่อระบายน้ำ - การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ - การพัฒนาผังเมือง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร - ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค 2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ - นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน 3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น - การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ - การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม 4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่ - การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี - การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ - การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่ - การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี 5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม - การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา - เศรษฐกิจพอเพียง - การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร
ชื่อไฟล์ : ๑. อาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด ๒. หน่วยธุรกิจในเขต อบต. - โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง - ค้าขาย ๘๙ แห่ง เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น) ๑. ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน ๒. ข้อมูลด้านเกษตรกรรม ๓. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร ๔. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ๑. อาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด ๒. หน่วยธุรกิจในเขต อบต. - โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง - ค้าขาย ๘๙ แห่ง เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น) ๑. ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน ๒. ข้อมูลด้านเกษตรกรรม ๓. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร ๔. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ ../add_file/ ๑. อาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด ๒. หน่วยธุรกิจในเขต อบต. - โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง - ค้าขาย ๘๙ แห่ง เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น) ๑. ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน ๒. ข้อมูลด้านเกษตรกรรม ๓. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร ๔. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
ชื่อไฟล์ : ๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง •หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ •ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร ๒. เนื้อที่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่ ๓. ภูมิประเทศและอาณาเขต •ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร •อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เต็มทั้งหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ ประชากร ตำบลสำโรง มีประชากรทั้งหมด ๘,๕๖๔ คน แยกเป็นชาย ๔,๓๘๓คน หญิง ๔,๑๘๑คน จำนวนครัวเรือน ๒,๐๙๖ครัวเรือน file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง •หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ •ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร ๒. เนื้อที่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่ ๓. ภูมิประเทศและอาณาเขต •ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร •อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เต็มทั้งหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ ประชากร ตำบลสำโรง มีประชากรทั้งหมด ๘,๕๖๔ คน แยกเป็นชาย ๔,๓๘๓คน หญิง ๔,๑๘๑คน จำนวนครัวเรือน ๒,๐๙๖ครัวเรือน ../add_file/๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง •หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ •ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร ๒. เนื้อที่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่ ๓. ภูมิประเทศและอาณาเขต •ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร •อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เต็มทั้งหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ ประชากร ตำบลสำโรง มีประชากรทั้งหมด ๘,๕๖๔ คน แยกเป็นชาย ๔,๓๘๓คน หญิง ๔,๑๘๑คน จำนวนครัวเรือน ๒,๐๙๖ครัวเรือน
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : ๑. การศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง - โรงเรียนวัดสำโรง - โรงเรียนบ้านตะโกรี - โรงเรียนบ้านเสม็ด - โรงเรียนพุทธบารมี - โรงเรียนบ้านประดู่ ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง - ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง - ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง ๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา - วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง ๓. การสาธารณสุข - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ % ๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ๑. การศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง - โรงเรียนวัดสำโรง - โรงเรียนบ้านตะโกรี - โรงเรียนบ้านเสม็ด - โรงเรียนพุทธบารมี - โรงเรียนบ้านประดู่ ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง - ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง - ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง ๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา - วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง ๓. การสาธารณสุข - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ % ๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง ../add_file/ ๑. การศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง - โรงเรียนวัดสำโรง - โรงเรียนบ้านตะโกรี - โรงเรียนบ้านเสม็ด - โรงเรียนพุทธบารมี - โรงเรียนบ้านประดู่ ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง - ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง - ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง ๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา - วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง ๓. การสาธารณสุข - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ % ๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
ชื่อไฟล์ : ระบบบริการพื้นฐาน ๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน ๕.๒ การโทรคมนาคม - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง - โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง ๕.๓ การไฟฟ้า - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ระบบบริการพื้นฐาน ๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน ๕.๒ การโทรคมนาคม - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง - โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง ๕.๓ การไฟฟ้า - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน ../add_file/ระบบบริการพื้นฐาน ๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน ๕.๒ การโทรคมนาคม - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง - โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง ๕.๓ การไฟฟ้า - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : gpQwnnLFri114644.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : ประวัติความเป็นมา - หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ - ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539 - องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551 file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ประวัติความเป็นมา - หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ - ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539 - องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551../add_file/ประวัติความเป็นมา - หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ - ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539 - องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้ ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่ จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้ ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้ สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้ ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่ จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้ ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้ สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว../add_file/มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้ ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่ จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้ ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้ สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้ ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้ ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป../add_file/การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้ ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป
ชื่อไฟล์ : สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน ๑. ด้านกายภาพ ๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ๑.๒ เนื้อที่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่ ๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต • ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร • อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ๒. ด้านการเมือง/การปกครอง ๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ จำนวน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ ๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต ๓. ประชากร ๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน ๔. สภาพสังคม ๔.๑ การศึกษา • ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี • โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง - โรงเรียนวัดสำโรง - โรงเรียนบ้านตะโกรี - โรงเรียนบ้านเสม็ด - โรงเรียนพุทธบารมี - โรงเรียนบ้านประดู่ • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง • ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง • ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง ๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา - วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง ๔.๓ การสาธารณสุข - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ % ๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง ๕. ระบบบริการพื้นฐาน ๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน ๕.๒ การโทรคมนาคม - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง - โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง ๕.๓ การไฟฟ้า - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน ๖. สภาพทางเศรษฐกิจ ๖.๑ อาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด ๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต. - โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง - ค้าขาย ๘๙ แห่ง ๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น) ๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน ๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม ๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร ๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ ๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม ๘.๑ การนับถือศาสนา - ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘ ๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี - ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม - ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม - แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม - ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน - ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน ๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน ๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ ๘.๕ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด ๙. ทรัพยากรธรรมชาติ ๙.๑ แหล่งน้ำ ๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ - ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย - หนองน้ำ ๖ แห่ง - สระน้ำ ๙ แห่ง ๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น - ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง - บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง - บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง - ใช้ได้ ๒๕ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง - ประปา ๑๓ แห่ง - ใช้ได้ ๙ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง - ถังน้ำ คสล ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด) ๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี ๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย) ๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง - ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน - ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน ๑. ด้านกายภาพ ๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ๑.๒ เนื้อที่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่ ๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต • ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร • อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ๒. ด้านการเมือง/การปกครอง ๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ จำนวน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ ๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต ๓. ประชากร ๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน ๔. สภาพสังคม ๔.๑ การศึกษา • ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี • โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง - โรงเรียนวัดสำโรง - โรงเรียนบ้านตะโกรี - โรงเรียนบ้านเสม็ด - โรงเรียนพุทธบารมี - โรงเรียนบ้านประดู่ • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง • ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง • ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง ๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา - วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง ๔.๓ การสาธารณสุข - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ % ๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง ๕. ระบบบริการพื้นฐาน ๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน ๕.๒ การโทรคมนาคม - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง - โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง ๕.๓ การไฟฟ้า - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน ๖. สภาพทางเศรษฐกิจ ๖.๑ อาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด ๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต. - โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง - ค้าขาย ๘๙ แห่ง ๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น) ๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน ๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม ๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร ๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ ๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม ๘.๑ การนับถือศาสนา - ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘ ๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี - ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม - ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม - แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม - ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน - ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน ๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน ๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ ๘.๕ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด ๙. ทรัพยากรธรรมชาติ ๙.๑ แหล่งน้ำ ๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ - ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย - หนองน้ำ ๖ แห่ง - สระน้ำ ๙ แห่ง ๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น - ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง - บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง - บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง - ใช้ได้ ๒๕ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง - ประปา ๑๓ แห่ง - ใช้ได้ ๙ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง - ถังน้ำ คสล ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด) ๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี ๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย) ๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง - ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน - ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน ../add_file/สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน ๑. ด้านกายภาพ ๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง • หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ๑.๒ เนื้อที่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่ ๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต • ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร • อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ๒. ด้านการเมือง/การปกครอง ๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ จำนวน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ ๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต ๓. ประชากร ๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน ๔. สภาพสังคม ๔.๑ การศึกษา • ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี • โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง - โรงเรียนวัดสำโรง - โรงเรียนบ้านตะโกรี - โรงเรียนบ้านเสม็ด - โรงเรียนพุทธบารมี - โรงเรียนบ้านประดู่ • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง • ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง • ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง ๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา - วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง ๔.๓ การสาธารณสุข - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง - อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ % ๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน - ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง ๕. ระบบบริการพื้นฐาน ๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน ๕.๒ การโทรคมนาคม - ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง - โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง ๕.๓ การไฟฟ้า - มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน ๖. สภาพทางเศรษฐกิจ ๖.๑ อาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด ๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต. - โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง - ค้าขาย ๘๙ แห่ง ๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น) ๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน ๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม ๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร ๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ ๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม ๘.๑ การนับถือศาสนา - ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘ ๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี - ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม - ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม - แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม - ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน - ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน ๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน ๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ ๘.๕ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด ๙. ทรัพยากรธรรมชาติ ๙.๑ แหล่งน้ำ ๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ - ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย - หนองน้ำ ๖ แห่ง - สระน้ำ ๙ แห่ง ๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น - ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง - บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง - บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง - ใช้ได้ ๒๕ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง - ประปา ๑๓ แห่ง - ใช้ได้ ๙ แห่ง - ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง - ถังน้ำ คสล ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด) ๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี ๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย) ๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง - ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน - ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
ชื่อไฟล์ : ILfxpwvFri115050.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : id1UVG5Fri101709.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : DPpuvRZFri110931.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : EkQWv1OFri23341.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : G3D87s0Fri23459.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : d4FHsprFri23727.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : X1Alq5BThu115232.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : jrXMQP1Thu115448.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : BoAHkddThu120058.doc file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : d3EUOnVThu120719.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : UADjJjkMon102011.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : Vc2FDTiMon102127.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : wKlPQ21Thu94436.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : EktlkYnSat25609.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : jrNluTkSat31854.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : bxqAurkSat32315.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : q9MSPYQSat32420.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : PBWTVIwSat33533.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : S5tDy0CSat35417.pdf file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้

ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : IXvFYVUMon93521.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : 5NCJwQCMon93638.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : LYuZHtdMon93717.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : vQKyqdPMon93827.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้ ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : maX4MxCMon112000.jpg file_download ดาว์นโหลดไฟล์นี้