" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
ข้อมูลสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ
หน่วยงานภายใน
ข้อมูลข่าวสาร
../add_file/
ข้อมูลสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ
หน่วยงานภายใน
ข้อมูลข่าวสาร
ชื่อไฟล์ :
เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ
../add_file/
เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ
ชื่อไฟล์ :
การพัฒนาระบบของเรา
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
การพัฒนาระบบของเรา
../add_file/
การพัฒนาระบบของเรา
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุงข้อมูล...
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุงข้อมูล...
../add_file/ รอปรับปรุงข้อมูล...
ชื่อไฟล์ :
วิสัยทัศน์การพัฒนา
องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง
“ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”
วิสัยทัศน์การพัฒนา
องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง
“ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
วิสัยทัศน์การพัฒนา
องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง
“ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”
../add_file/
วิสัยทัศน์การพัฒนา
องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง
“ เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ ประชาชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีบ้านเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม ทำให้ประชาชนสุขภาพดี โดยมีครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”
ชื่อไฟล์ :
ส่วนที่ ๑
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล. ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
ส่วนที่ ๑
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล. ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
ส่วนที่ ๑
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล. ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
../add_file/
ส่วนที่ ๑
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล. ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
ชื่อไฟล์ :
ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมถนน ทางระบายน้ำ สะพาน ท่อระบายน้ำ
- การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
- การพัฒนาผังเมือง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
- ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
- นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
- การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
- การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
- การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
- การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
- เศรษฐกิจพอเพียง
- การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร
ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมถนน ทางระบายน้ำ สะพาน ท่อระบายน้ำ
- การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
- การพัฒนาผังเมือง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
- ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
- นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
- การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
- การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
- การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
- การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
- เศรษฐกิจพอเพียง
- การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมถนน ทางระบายน้ำ สะพาน ท่อระบายน้ำ
- การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
- การพัฒนาผังเมือง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
- ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
- นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
- การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
- การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
- การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
- การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
- เศรษฐกิจพอเพียง
- การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร
../add_file/
ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมถนน ทางระบายน้ำ สะพาน ท่อระบายน้ำ
- การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
- การพัฒนาผังเมือง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
- ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
- นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
- การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
- การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
- การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
- การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
- เศรษฐกิจพอเพียง
- การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร
ชื่อไฟล์ :
๑. อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๒. หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑. ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒. ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๑. อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๒. หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑. ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒. ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
๑. อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๒. หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑. ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒. ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
../add_file/
๑. อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๒. หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑. ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒. ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
•หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
•ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก
ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร
๒. เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๓. ภูมิประเทศและอาณาเขต
•ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
•อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
จำนวนหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เต็มทั้งหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
ประชากร
ตำบลสำโรง มีประชากรทั้งหมด ๘,๕๖๔ คน แยกเป็นชาย ๔,๓๘๓คน หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน ๒,๐๙๖ครัวเรือน
๑. การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๓. การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
จำนวนหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เต็มทั้งหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
ประชากร
ตำบลสำโรง มีประชากรทั้งหมด ๘,๕๖๔ คน แยกเป็นชาย ๔,๓๘๓คน หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน ๒,๐๙๖ครัวเรือน
๑. การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๓. การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
•หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
•ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก
ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร
๒. เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๓. ภูมิประเทศและอาณาเขต
•ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
•อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
จำนวนหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เต็มทั้งหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
ประชากร
ตำบลสำโรง มีประชากรทั้งหมด ๘,๕๖๔ คน แยกเป็นชาย ๔,๓๘๓คน หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน ๒,๐๙๖ครัวเรือน
๑. การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๓. การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
../add_file/
๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
•หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
•ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก
ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร
๒. เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๓. ภูมิประเทศและอาณาเขต
•ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
•อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
จำนวนหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เต็มทั้งหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
ประชากร
ตำบลสำโรง มีประชากรทั้งหมด ๘,๕๖๔ คน แยกเป็นชาย ๔,๓๘๓คน หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน ๒,๐๙๖ครัวเรือน
๑. การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๓. การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
ชื่อไฟล์ : ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
../add_file/ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
ชื่อไฟล์ :
ประวัติความเป็นมา
- หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
- ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
ประวัติความเป็นมา
- หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
- ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
ประวัติความเป็นมา
- หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
- ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
../add_file/
ประวัติความเป็นมา
- หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
- ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
ชื่อไฟล์ :
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
../add_file/
ชื่อไฟล์ :
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว
../add_file/
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว
ชื่อไฟล์ :
การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web
ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป
การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web
ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web
ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป
../add_file/
การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web
ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป
ชื่อไฟล์ : คำถาม :
ตอบ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: คำถาม :
ตอบ :../add_file/คำถาม :
ตอบ :
ชื่อไฟล์ : สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ จำนวน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่ • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ จำนวน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่ • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ จำนวน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่ • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
../add_file/สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ จำนวน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่ • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
ชื่อไฟล์ : rVApe4OTue113920.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : usCTiJETue114039.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง
ตำบลสำโรง อำเภอ พลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ 31250
เบอร์โทร. 044 634 950
โทรสาร. 044 634 950
https://www.samronglocal.go.th
อีเมลล์ : admin@samronglocal.go.th
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง
ตำบลสำโรง อำเภอ พลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ 31250
เบอร์โทร. 044 634 950
โทรสาร. 044 634 950
https://www.samronglocal.go.th
อีเมลล์ : admin@samronglocal.go.th../add_file/ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง
ตำบลสำโรง อำเภอ พลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ 31250
เบอร์โทร. 044 634 950
โทรสาร. 044 634 950
https://www.samronglocal.go.th
อีเมลล์ : admin@samronglocal.go.th
ชื่อไฟล์ : " class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : วิดีโอสอนการใช้งาน ระบบจาก youtube คลิกที่นี่เพื่อดูวิดีโอ
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: วิดีโอสอนการใช้งาน ระบบจาก youtube คลิกที่นี่เพื่อดูวิดีโอ../add_file/วิดีโอสอนการใช้งาน ระบบจาก youtube คลิกที่นี่เพื่อดูวิดีโอ
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : pXYBNZkWed105725.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : ybmBPuNWed102536.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รบกวนช่วยแก้ปัญหาน้ำปะปา หมู่บ้าน ตะโกรี น้ำคุ้นมากๆ และชาวบ้านในหมู่บ้านเดาไม่๔ุกเลยว่าน้ำจะไหลเวลาไหน ต้องเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้เพื่อเอาไว้ใช้ น้ำคุ้นมาหลายนปีแล้วครับ รบกวนช่วยแก้ไขให้อย่างเร่งด่วนหน่อยครับ เพราะน้ำไม่สะอาด ต้องเอาไปอาบน้ำ ทำกับข้า่วต่างๆ สิ่งสปปรกในน้ำ ทำให้คนป่วย เกิดโรคต่างๆได้ครับ รบกวนด้วยครับล
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รบกวนช่วยแก้ปัญหาน้ำปะปา หมู่บ้าน ตะโกรี น้ำคุ้นมากๆ และชาวบ้านในหมู่บ้านเดาไม่๔ุกเลยว่าน้ำจะไหลเวลาไหน ต้องเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้เพื่อเอาไว้ใช้ น้ำคุ้นมาหลายนปีแล้วครับ รบกวนช่วยแก้ไขให้อย่างเร่งด่วนหน่อยครับ เพราะน้ำไม่สะอาด ต้องเอาไปอาบน้ำ ทำกับข้า่วต่างๆ สิ่งสปปรกในน้ำ ทำให้คนป่วย เกิดโรคต่างๆได้ครับ รบกวนด้วยครับล ../add_file/รบกวนช่วยแก้ปัญหาน้ำปะปา หมู่บ้าน ตะโกรี น้ำคุ้นมากๆ และชาวบ้านในหมู่บ้านเดาไม่๔ุกเลยว่าน้ำจะไหลเวลาไหน ต้องเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้เพื่อเอาไว้ใช้ น้ำคุ้นมาหลายนปีแล้วครับ รบกวนช่วยแก้ไขให้อย่างเร่งด่วนหน่อยครับ เพราะน้ำไม่สะอาด ต้องเอาไปอาบน้ำ ทำกับข้า่วต่างๆ สิ่งสปปรกในน้ำ ทำให้คนป่วย เกิดโรคต่างๆได้ครับ รบกวนด้วยครับล
ชื่อไฟล์ : eRpQXZgTue33227.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : JdPXcD5Fri10132.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : SkcdmayFri11230.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : i3TcF93Fri12047.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : ICHdyBMMon23021.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : AQLFilDMon23710.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : RR9E5qXMon33628.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : 8Q0NyzKMon40450.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : GW70bgZMon40815.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : y2ZMwPWTue93720.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : vS6vajCWed14130.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : Q89bUVZThu104512.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : xTAim3fThu21300.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : อบต.สำโรง ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มารับบริการหรือติดต่อกับ อบต.สำโรง ได้เข้ามามีส่วนร่วมประเมินหรือแสดงความเห็นต่อการดำเนินงานของ อบต.สำโรง ผ่านการประเมิน ITA โดยท่านสามารถเข้าระบบ ITAS เพื่อร่วมการประเมินฯดังกล่าว ได้ ผ่านช่องทาง ดังนี้
เมื่อเข้าระบบแล้ว ท่านสามารถกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อทำแบบสำรวจด้วยตนเองได้
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: อบต.สำโรง ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มารับบริการหรือติดต่อกับ อบต.สำโรง ได้เข้ามามีส่วนร่วมประเมินหรือแสดงความเห็นต่อการดำเนินงานของ อบต.สำโรง ผ่านการประเมิน ITA โดยท่านสามารถเข้าระบบ ITAS เพื่อร่วมการประเมินฯดังกล่าว ได้ ผ่านช่องทาง ดังนี้
เมื่อเข้าระบบแล้ว ท่านสามารถกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อทำแบบสำรวจด้วยตนเองได้../add_file/อบต.สำโรง ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มารับบริการหรือติดต่อกับ อบต.สำโรง ได้เข้ามามีส่วนร่วมประเมินหรือแสดงความเห็นต่อการดำเนินงานของ อบต.สำโรง ผ่านการประเมิน ITA โดยท่านสามารถเข้าระบบ ITAS เพื่อร่วมการประเมินฯดังกล่าว ได้ ผ่านช่องทาง ดังนี้
เมื่อเข้าระบบแล้ว ท่านสามารถกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อทำแบบสำรวจด้วยตนเองได้
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : https://itas.nacc.go.th/go/eit/3absze
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: https://itas.nacc.go.th/go/eit/3absze../add_file/https://itas.nacc.go.th/go/eit/3absze
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : Ty4WbbrWed105809.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : Wi2WrvEWed32009.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : yjaujXxWed35050.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : PJw3CxEWed35748.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : Ac3wwaUThu41031.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : ytZvY5qThu25008.jpg
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : UHCrcxGThu35753.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : OSsOv7OThu40032.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยมีคำขวัญประจำปี 2567 คือ "ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า" ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกๆ ประเทศตระหนักถึงอันตราย และความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยมีคำขวัญประจำปี 2567 คือ "ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า" ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกๆ ประเทศตระหนักถึงอันตราย และความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ../add_file/องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยมีคำขวัญประจำปี 2567 คือ "ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า" ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกๆ ประเทศตระหนักถึงอันตราย และความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่
ชื่อไฟล์ : วันงดสูบบุหรี่โลก ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี แต่ละประเทศจะมีการจัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโทษและอันตรายจากบุหรี่ เพื่อให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมและเกิดความตระหนักรู้
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: วันงดสูบบุหรี่โลก ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี แต่ละประเทศจะมีการจัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโทษและอันตรายจากบุหรี่ เพื่อให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมและเกิดความตระหนักรู้../add_file/วันงดสูบบุหรี่โลก ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี แต่ละประเทศจะมีการจัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโทษและอันตรายจากบุหรี่ เพื่อให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมและเกิดความตระหนักรู้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ../add_file/เราเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ด้วยระบบ easyweb ใช้งานง่าย พร้อมแสดงได้ในแทบเล็ต และมือถือ
ชื่อไฟล์ : " class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล. ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล. ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
../add_file/
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ • ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการ อำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 จำนวน 11 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้อนุรักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการทำเครื่องจักสารใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สิ้นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล. ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้ มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
ชื่อไฟล์ : ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมถนน ทางระบายน้ำ สะพาน ท่อระบายน้ำ
- การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
- การพัฒนาผังเมือง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
- ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
- นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
- การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
- การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
- การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
- การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
- เศรษฐกิจพอเพียง
- การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมถนน ทางระบายน้ำ สะพาน ท่อระบายน้ำ
- การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
- การพัฒนาผังเมือง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
- ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
- นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
- การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
- การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
- การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
- การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
- เศรษฐกิจพอเพียง
- การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร
../add_file/ยุทธศาสตร์การพัฒนาและแนวทางการพัฒนา
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
แนวทางการพัฒนาท้องถิ่น
1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- ก่อสร้างปรับปรุงบำรุงรักษา ซ่อมแซมถนน ทางระบายน้ำ สะพาน ท่อระบายน้ำ
- การพัฒนาขยายเขตไฟฟ้าและไฟฟ้าสาธารณะ
- การพัฒนาผังเมือง ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร
- ก่อสร้างระบบประปาและขยายเขตประปาภูมิภาค
2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ
- นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน
3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการศึกษาและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น
- การพัฒนาการศึกษาในระบบและนอกระบบ
- การพัฒนาภูมิปัญญา ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- การพัฒนาส่งเสริมสุขภาพอนามัยกีฬาและนันทนาการ
- การพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้บ้านเมืองน่าอยู่
- การพัฒนาการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
- การส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้ปรัชญา
- เศรษฐกิจพอเพียง
- การปรับปรุงผลผลิตและวิธีการเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร
ชื่อไฟล์ : ๑. อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๒. หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑. ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒. ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ๑. อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๒. หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑. ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒. ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
../add_file/ ๑. อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๒. หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๑. ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๒. ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๓. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๔. ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
ชื่อไฟล์ : ๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
•หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
•ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก
ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร
๒. เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๓. ภูมิประเทศและอาณาเขต
•ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
•อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
จำนวนหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เต็มทั้งหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
ประชากร
ตำบลสำโรง มีประชากรทั้งหมด ๘,๕๖๔ คน แยกเป็นชาย ๔,๓๘๓คน หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน ๒,๐๙๖ครัวเรือน
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
•หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
•ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก
ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร
๒. เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๓. ภูมิประเทศและอาณาเขต
•ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
•อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
จำนวนหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เต็มทั้งหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
ประชากร
ตำบลสำโรง มีประชากรทั้งหมด ๘,๕๖๔ คน แยกเป็นชาย ๔,๓๘๓คน หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน ๒,๐๙๖ครัวเรือน
../add_file/๑. ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
•หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ในปีพ.ศ.๒๕๓๕ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรงและได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงเมื่อวันที่ ๓๐มีนาคม๒๕๓๙องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑
•ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ห่างจาก
ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕กิโลเมตร
๒. เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๓. ภูมิประเทศและอาณาเขต
•ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
•อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
จำนวนหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน
จำนวนหมู่บ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล เต็มทั้งหมู่บ้าน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
ประชากร
ตำบลสำโรง มีประชากรทั้งหมด ๘,๕๖๔ คน แยกเป็นชาย ๔,๓๘๓คน หญิง ๔,๑๘๑คน
จำนวนครัวเรือน ๒,๐๙๖ครัวเรือน
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : ๑. การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๓. การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ๑. การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๓. การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง ../add_file/ ๑. การศึกษา
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
- ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๒.สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๓. การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
ชื่อไฟล์ : ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน ../add_file/ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม
- เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : gpQwnnLFri114644.jpg
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : ประวัติความเป็นมา
- หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
- ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ประวัติความเป็นมา
- หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
- ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551../add_file/ประวัติความเป็นมา
- หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทรเมื่อปี พ.ศ. 2443 ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
- ปี พ.ศ. 2538 กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบล สำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรงเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2539
- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว../add_file/มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ของเด็กพรั่งพรูเข้ามาในระยะนี้ ซึ่งคงมีอยู่ในใจของผู้อ่านจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ยุคการศึกษาแบบไร้พรมแดน ที่มีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่มาก จนเกิดความลังเลใจว่า เราจะให้ลูก ได้เริ่มเรียนคอมพิวเตอร์เมื่อใดดี จากหลักปรัชญาแห่งการศึกษาที่สำคัญคือ การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งสภาพความพร้อมและสิ่งแวดล้อม จะต้องเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การจัดการศึกษาทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน จึงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาลเวลา
ประเด็นอยู่ที่ว่า การนำความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กและเยาวชนของชาติต้องคำนึงถึง สภาพความเหมาะสมต่อการเรียนรู้ การสอนคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กจึงกระทำได้ทุกระดับอายุ ขึ้นอยู่กับการนำเนื้อหาใดไปสอน ซึ่งต้องเหมาะสมกับสภาพการรับรู้
ในวัยประถม เด็กเป็นผู้ใฝ่หาและอยากเรียนรู้ มีสภาพการเรียนรู้ที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว หากจัดการศึกษาที่เหมาะสม เด็กจะเรียนรู้และเข้าใจในบางสิ่งบางอย่างได้รวดเร็ว ตรงกันข้าม หากนำสิ่งที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาสอนเด็กในวัยต้นนี้ เด็กจะปฏิเสธและมีความ ฝังใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งยุ่งยาก และจะไม่ยอมรับอีกต่อไป
การให้เด็กได้เรียนคอมพิวเตอร์ในวัยเด็กจึงเสมือนดาบสองคม ที่อาจส่งผลในเชิงบวกหรือลบก็ได้ ผลที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่การจัดการ ศึกษาเป็นสำคัญ สภาพของผู้สอนที่เข้าใจวุฒิภาวะและความต้องการของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องระวัง สิ่งใดที่ให้คุณแต่หากใช้ไม่ถูกต้องก็ย่อม ให้โทษได้เช่นกัน
การเรียนคอมพิวเตอร์ในประถมวัยนี้ เป็นเรื่องของความสนุกสนาน ความท้าทายในการค้นหาความจริง ความเพลิดเพลิน เพื่อ เตรียมความพร้อมที่จะไปศึกษาในโอกาสต่อไป การสอนในวัยนี้ จะต้องเน้นสร้างความพึงพอใจเป็นสิ่งง่าย ๆ ที่แฝงด้วยหลักการและ วิธีการคิดเพื่อเสริมสร้างสติปัญญา
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ในวัยประถมก็มีความสำคัญ ต้องเข้าใจในตัวเด็กเป็นอย่างดี เด็กอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกม สนุกสนาน กับการวาดภาพ การแสดงออกซึ่งความคิดริเริ่มต่าง ๆ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่กระทำได้และกระทำได้ดีด้วย
คอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างสรรค์เด็กในเรื่องความคิดริเริ่ม เด็กสามารถจินตนาการต่าง ๆ และแสดงออกบนจอภาพได้ สามารถใช้ ลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แสดงในสิ่งที่ตนเองต้องการ และยังสร้างความคิดอย่างมีเหตุมีผลมีความรอบคอบ ในสิ่งที่ตนเองทำ การเรียนคอมพิวเตอร์จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใฝ่หาและกระตือรือร้นในการค้นหาสิ่งแปลกใหม่
จากประสบการณ์ทางด้านการศึกษาและงานวิจัยของนักการศึกษาชื่อดัง "เซมอร์ พาเพิร์ด" (Seymour Papert) ศาสตราจารย์แห่ง มหาวิทยาลัย MII ได้เน้นให้เห็นว่า เด็กจำนวนมากในประถมวัยนี้ ได้รับการสอนโดยเฉพาะการสอนคณิตศาสตร์ที่ผิด ทำให้เด็กเหล่านี้ เป็นโรค Mathophobia (โรคกลัวคณิตศาสตร์) และจะไม่ชอบคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิต การที่เด็กไม่ชอบคณิตศาสตร์ เพราะครูผู้สอน สร้างความรู้สึกยุ่งยากซับซ้อนให้กับเด็ก จึงส่งผลเสียให้เด็กฝังใจในสิ่งนั้นไปตลอด
เซมอร์ พาเพิร์ด ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้หลายเล่ม และยังได้พัฒนาการใช้คอมพิวเตอร์สอนเด็ก ในระดับประถมวัยด้วย สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการสอนแบบมีรูปแบบ สร้างสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อนอย่างคณิตศาสตร์ให้เป็นสิ่งง่ายสนุกสนานโดยใช้ คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท พาเพิร์ดได้พัฒนาภาษาโลโกซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสั่งเต่าให้เดินเป็นรูปร่างต่าง ๆ เป็นการเขียนรูปตาม จินตนาการเน้นให้เห็นว่า การเรียนเรขาคณิตเป็นเรื่องสนุกสนานได้
ในวัยประถม การจัดการศึกษาคอมพิวเตอร์ย่อมเป็นไปได้ แต่ต้องให้มีสภาพเหมาะสมกับวัย เน้นความพึงพอใจ ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน เพื่อแรงกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในขั้นสูงต่อไป ครูผู้สอนจะต้องมีความพร้อมทั้ง ในเรื่องคอมพิวเตอร์เอง และดัดแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก
สำหรับวัยมัธยมศึกษา การจัดการศึกษาย่อมแตกต่างออกไป ในวัยนี้นักเรียนมีความพร้อมในเรื่องของฐานความรู้หลายอย่าง การจัดการศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนเสริมให้ขบวนการสร้างสรรค์ปัญญาเต็มรูปแบบได้
สิ่งที่สำคัญในการศึกษาวันนี้คือ อย่าเน้นในเรื่องวิชาชีพ แต่พยายามเน้นความพร้อมของเยาวชนในเรื่องการเรียนรู้ เน้นให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาสู่กระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้มากมาย องค์ประกอบแห่งการเรียนรู้ในวัยนี้ จึงเน้นที่ต้องการ สร้างความคิดอย่างเป็นระบบ สร้างความคิดริเริ่มและให้เหตุผลแห่งการมองแบบตรรกศาสตร์ ด้วยความพร้อมที่จะนำคอมพิวเตอร์ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่าง ๆ
การศึกษาคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กและเยาวชนจึงสำคัญอยู่ที่ครูผู้สอน ครูผู้สอนต้องจัดการสร้างขบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสม ไม่นำสิ่งที่เป็นความยุ่งยากซับซ้อน ขบวนการสอนเด็กให้เป็นนักคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องการให้เด็กมีความพร้อมที่จะใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อประกอบการเรียนและอาชีพต่อไปภายภาคหน้า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทที่สำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมมีส่วนเป็นแรงกระตุ้นมาก ในเด็กประถมวัยก็มีวิดีโอเทป เป็นสิ่งยั่วยุ ในเด็กวัยมัธยมศึกษาหรือเยาวชนก็มีสื่อที่ท้าทาย เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกระตุ้น วัยแสวงหานี้จึงเป็นวัยที่อันตรายหาก จัดการทิศทางของการเรียนรู้ไม่ถูกต้อง จึงต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนมากขึ้น โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ อย่าให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทำลายโดยที่ผู้ปกครองอาจไม่รู้ตัว
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web
ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web
ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป../add_file/การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web
ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป
ชื่อไฟล์ : สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ จำนวน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่ • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ จำนวน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่ • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
../add_file/สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
๑. ด้านกายภาพ
๑.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง
• หมู่บ้านสำโรงเดิมขึ้นกับตำบลบ้านไทร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ ต่อมาย้ายมาขึ้นกับตำบลแสลงโทน ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีการแบ่งเขตพื้นที่อำเภอใหม่ ตำบลสำโรงได้มาขึ้นกับอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ กระทรวงมหาดไทยมีประกาศยกฐานะเป็นสภาตำบลสำโรง และได้ยกฐานะจากสภาตำบลสำโรง เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๓๙ องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ได้ดำเนินการขอปรับขนาดจากองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดเล็ก เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลขนาดกลาง วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตำบลสำโรง เป็นตำบลหนึ่งในห้าตำบลของอำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
๑.๒ เนื้อที่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๕๔.๗๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕,๗๑๑ ไร่
๑.๓ ภูมิประเทศและอาณาเขต
• ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง โดยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑๕๐-๑๘๐ เมตร มีคลองน้ำห้วยระกา และชลประทานเป็นแหล่งน้ำสำคัญทางการเกษตร
• อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหลักเขตและตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสะเดา อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
๒. ด้านการเมือง/การปกครอง
๒.๑ แบ่งการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ จำนวน ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ ๑ บ้านสำโรง หมู่ที่ ๒ บ้านสำโรง
หมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี หมู่ที่ ๔ บ้านเสม็ด
หมู่ที่ ๕ บ้านกัดลิ้น หมู่ที่ ๖ บ้านโสน
หมู่ที่ ๗ บ้านประดู่ หมู่ที่ ๘ บ้านประทัดบุ
หมู่ที่ ๙ บ้านพนาวัน หมู่ที่ ๑๐ บ้านไทรงาม
หมู่ที่ ๑๑ บ้านเทวัญ
๒.๒ เขตการเลือกตั้งทั้งตำบล ๑ เขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาออกเป็น ๑๑ เขต
๓. ประชากร
๓.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
ประชากรทั้งสิ้น ๘,๓๕๗ คน แยกเป็น ชาย ๔,๒๖๕ คน หญิง ๔,๐๙๒ คน จำนวน ๑,๙๖๙ ครัวเรือน
๔. สภาพสังคม
๔.๑ การศึกษา
• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ ๔ แห่ง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.สำโรง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านเสม็ด
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนพุทธบารมี
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านตะโกรี
• โรงเรียนระดับประถมศึกษา ๕ แห่ง
- โรงเรียนวัดสำโรง
- โรงเรียนบ้านตะโกรี
- โรงเรียนบ้านเสม็ด
- โรงเรียนพุทธบารมี
- โรงเรียนบ้านประดู่ • ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน / ห้องสมุดประชาชน ๑๐ แห่ง
• ศูนย์อินเตอร์เน็ตตำบล ๑ แห่ง
• ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ๑ แห่ง
๔.๒ สถาบันและองค์กรทางศาสนา
- วัด / สำนักสงฆ์ ๖ แห่ง
๔.๓ การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรง ๑ แห่ง
- อัตราการมีและใช้ส้วมราดน้ำ ๑๐๐ %
๔.๔ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ๑ แห่ง
๕. ระบบบริการพื้นฐาน
๕.๑ การคมนาคม - เส้นทางการคมนาคม ส่วนมากเป็นถนนลูกรังและถนนหินคลุกซึ่งส่วนมากเป็นสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกโดยเฉพาะในฤดูฝน
๕.๒ การโทรคมนาคม
- ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข (ย่อย) ๑ แห่ง
- โทรศัพท์สาธารณะ ๑๑ แห่ง
๕.๓ การไฟฟ้า
- มีไฟฟ้าใช้ยังไม่ครบทุกครัวเรือนเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านใหม่และอยู่ที่ห่างไกลชุมชน
๖. สภาพทางเศรษฐกิจ
๖.๑ อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยหลังฤดูเก็บเกี่ยวมีอาชีพเสริมคือรับจ้างทั่วไป รวมทั้งอพยพไปทำงานต่างจังหวัด
๖.๒ หน่วยธุรกิจในเขต อบต.
- โรงสี (ขนาดเล็ก) ๑๗ แห่ง
- ค้าขาย ๘๙ แห่ง
๗. เศรษฐกิจพอเพียงท้องถิ่น (ด้านเกษตรและท้องถิ่น)
๗.๑ ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน
๗.๒ ข้อมูลด้านเกษตรกรรม
๗.๓ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำทางการเกษตร
๗.๔ ข้อมูลด้านแหล่งน้ำกิน น้ำใช้
๘. ศาสนา ประพณี วัฒนธรรม
๘.๑ การนับถือศาสนา
- ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ ๙๘
๘.๒ ประเพณี และง่านประจำปี
- ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประมาณเดือน มกราคม
- ประเพณีแห่เจ้าพ่อหน่วง ประมาณเดือน มกราคม
- แห่ช้างสืบสานประเพณีบุญผะเหวด ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีทำบุญกลางบ้าน ประมาณเดือน พฤษภาคม
- ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
- ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
- ประเพณีวันเข้าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน
๘.๓ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ส่วนมากร้อยละ ๙๐ % พูดภาษาอิสาน
๘.๔ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ใช้สำหรับในครัวเรือน วิธีการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม วิธีการทอเสื่อจากต้นกก และวิธีการจับปลาธรรมชาติ
๘.๕ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงได้ผลิตของใช้พื้นเมืองขึ้นใช้ในครัวเรือนและเหลือเอาไว้จำหน่วยบ้าง ได้แก่ เสื่อที่ทอจากต้นกก ผ้าที่ทอจากผ้าฝ่ายและผ้าไหม เครื่องจักรสานที่ทำจากไม้ไผ่ และขนมนางเล็ด
๙. ทรัพยากรธรรมชาติ
๙.๑ แหล่งน้ำ
๙.๑.๑ แหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลำห้วย,ลำน้ำ ๙ สาย
- หนองน้ำ ๖ แห่ง
- สระน้ำ ๙ แห่ง
๙.๑.๒ แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
- ฝายน้ำล้น ๕ แห่ง
- บ่อน้ำตื้น ๑ แห่ง
- บ่อบ่อบาดาล ๖๐ แห่ง
- ใช้ได้ ๒๕ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๓๕ แห่ง
- ประปา ๑๓ แห่ง
- ใช้ได้ ๙ แห่ง
- ใช้ไม่ได้ ๑ แห่ง
- ถังน้ำ คสล ๙ แห่ง (ใช้ได้ทั้งหมด)
๙.๒ ป่าไม้
มีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่รวม ๐.๖๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๔๐๐ ไร่ บริเวณหมู่ที่ ๓ บ้านตะโกรี
๑๐. อื่น ๆ (ถ้ามีระบุด้วย)
๑๐.๑ กลุ่มมวลชนจัดตั้ง
- ลูกเสือชาวบ้าน ๓ รุ่น ๔๕๐ คน
- ศูนย์อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ๓ รุ่น ๑๔๖ คน
ชื่อไฟล์ : ILfxpwvFri115050.jpg
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : id1UVG5Fri101709.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : DPpuvRZFri110931.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : EkQWv1OFri23341.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : G3D87s0Fri23459.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : d4FHsprFri23727.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : X1Alq5BThu115232.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : jrXMQP1Thu115448.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : BoAHkddThu120058.doc
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้